วันเสาร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2557

การนมัสการ



ยอห์น 4:23-24
          “แต่วาระนั้นใกล้เข้ามาแล้ว และบัดนี้ก็ถึงแล้ว คือเมื่อคนที่นมัสการอย่างแท้จริง จะนมัสการพระบิดาด้วยจิตวิญญาณและความจริง เพราะว่าพระบิดาทรงแสวงหาคนเช่นนั้นมานมัสการพระองค์ พระเจ้าเป็นพระวิญญาณ และคนที่นมัสการพระองค์จะต้องนมัสการด้วยจิตวิญญาณและความจริง”
สดุดี 112:1-3
          “จงสรรเสริญพระเจ้าเถิด คนที่เกรงกลัวพระเจ้าก็เป็นสุข คือผู้ปิติยินดีเป็นอันมากในพระบัญญัติของพระองค์ เชื้อสายของเขาจะทรงอานุภาพในแผ่นดิน พวกคนเที่ยงธรรมจะรับพระพร ทรัพย์ศฤงคารและความมั่งคั่งมีอยู่ในเรือนของเขาและความชอบธรรมของเขาดำรงอยู่เป็นนิตย์


การนมัสการคือ ทุกอิริยาบถในชีวิตที่แสดงออกถึงความเคารพยำเกรง ยกย่อง เทิดทูลพระเจ้า ไม่ใช่แค่การร้องเพลงอย่างเดียว และการนมัสการ เป็นสิ่งที่แสดงออกถึงความสัมพันธ์ของพระเจ้าและมนุษย์ ที่ทุกคนแสดงออกได้ เช่น การร้องเพลงสรรเสริญ การอธิษฐาน การอ่านพระคัมภีร์

ความหมายของการนมัสการ  
          การนมัสการเป็นแสดง การตอบสนองจากภายในจิตใจที่แสดงออกมาอันเนื่องมาจากการที่เห็นความสำคัญและคุณค่าของบุคคลนั้นเป็นการทำในสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อเป็นการยกย่องให้เกียรติ์การนมัสการสามารถแสดงออกได้หลายแบบทั้งแบบส่วนตัวและส่วนรวมแต่มีวัตถุประสงค์เดียวกัน การนมัสการเป็นสิ่งที่คริสเตียนทุกคนต้องกระทำ เพราะเป็นการแสดงออกถึงความสัมพันธ์ของเรากับพระเจ้าและคริสตจักรของพระองค์ การนมัสการเป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถแสดงออกได้ตลอดเวลาต่อพระเจ้าเป็นเรื่องที่อยู่ใกล้ตัวเราและเป็นสิ่งที่พระเจ้าปรารถนาให้เกิดขึ้นในชีวิตของ คริสเตียนทุกๆคน  ฉะนั้นการนมัสการจึงเป็นหน้าที่ ของคริสเตียนทุกคน  ไม่ใช่ เฉพาะทีมนมัสการ  กลุ่มผู้นำ ผู้ปกครอง ศิษยาภิบาล เท่านั้นแต่เป็นความรับผิดชอบของเราทุกคน ในฐานะที่เราเป็นประชากรที่พระองค์ทรงเลือกสรรไว้สำหรับนมัสการพระองค์ และได้ทรงเลือกไว้ก่อนที่พระองค์จะทรงสร้างโลกนี้    

จากคำเทศนาคริสตจักรที่ 1 
          เราทั้งหลายมานมัสการพระเจ้าร่วมกันโดยมีจุดรวมความสนใจอยู่ทีพระเจ้าเท่านั้นบางครั้งอาจมีอุปสรรคทางสายตา ทางหู ทางความคิด ทางจิตใจ แต่เราต้องพยายามโฟกัสที่พระเจ้า เราร้องเพลงถวายพระเจ้า ผู้ที่บรรเลงหรือร้องเพลงสรรเสริญเป็นพิเศษก็ถวายแด่พระเจ้า เราอธิษฐานทูลต่อพระเจ้าร่วมกัน เราอยู่ที่นี่ด้วยกันต่อหน้าพระเจ้า ข้าพเจ้าเคยไปนมัสการพระเจ้าหลายคริสตจักร หลายคณะนิกาย ข้าพเจ้าสังเกตตนเองว่าบ่อยครั้ง เมื่อข้าพเจ้าเห็นว่าบางแห่งสายไมโครโฟนไม่เก็บเรียบร้อย หรือใช้ดอกไม้พลาสติก บางคริสตจักรผู้หญิงนุ่งกางเกง ผู้ชายสวมเสื้อยืดคอกลม บางคริสตจักรบนเวทีข้าวของวางระเกะระกะไปหมด บางคริสตจักรการอธิษฐาน เสียงเพลงดังเกินไป บางคริสตจักรพิธีมหาสนิทไม่เรียบร้อยแม้แต่รายการสลับไปมาไม่เป็นตามที่เรียนรู้มาและด้วยใจอคติหลายๆ อย่าง ข้าพเจ้าขอสารภาพว่าโฟกัสของข้าพเจ้าไม่ได้อยู่ที่พระเจ้า พระองค์มิได้เป็นศูนย์กลางในการนมัสการในเวลานั้น ช่างเป็นเรื่องเศร้าข้าพเจ้าพลาด ไม่ได้พบพระองค์ พี่น้องที่รักเป็นความจริงที่มนุษย์ดูรูปร่างภายนอก ซึ่งเราก็ต้องทำทุกสิ่งให้ดีที่สุด เหมาะสมกับบริบท แต่พระเจ้าทรงทอดพระเนตรจิตใจ
            พี่น้องที่รัก ท่าดีทีเหลว ปากกับใจไม่ตรงกัน พิธีกรรมสวยงามศักดิ์สิทธิ์ เพลงที่ไพเราะแต่ไร้พฤติกรรมที่เชื่อฟังพระเจ้า ทำให้การนมัสการพระเจ้าหมดความหมาย และไร้คุณค่า การนมัสการที่พระเจ้าทรงพอพระทัย คือเมื่อปากได้ร้องสรรเสริญและจิตใจที่เชื่อฟังพระองค์


          มีผู้เปรียบเทียบว่า ในขณะที่เรามาร่วมนมัสการพระเจ้านั้น ผู้ร้องเพลง ผู้เทศนา ผู้ฟังการเทศนา ล้วนเปรียบเหมือนผู้แสดง แต่ผู้ที่ดูเราคือพระเจ้า ไม่ได้หมายความว่าผู้ฟังการเทศนาคือผู้ชม ส่วนผู้แสดง คือผู้ที่เทศนา ผู้ที่ร้องเพลง และผู้ที่เล่นดนตรี เพราะเราทุกคนล้วนกำลังนมัสการพระเจ้า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น