วันอังคารที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2565

พระพรที่ซ่อนอยู่

 

27 กันยายน 2565


พระพรที่ซ่อนอยู่

 

“เพราะฉะนั้น พวกท่านจงถ่อมตัวลงภายใต้พระหัตถ์อันทรงฤทธิ์ของพระเจ้า เพื่อว่าพระองค์จะทรงยกพวกท่านขึ้นเมื่อถึงเวลาอันควร”—1 เปโตร 5:6

บ่อยครั้งเมื่อเราเจอปัญหาต่างๆ เรากลับไม่ไว้ใจพระเจ้า ท้อแท้ได้ง่ายๆ ยิ่งยุคปัจจุบันคนเราอยู่กับอะไรก็ต้องรวดเร็วขึ้น จึงไม่รู้จักคำว่ารอคอย เราไม่รู้จักคำว่าอดทน และดูเหมือนว่าเวลาของพระองค์ล่าช้าไม่ทันใจ วันนี้จึงของนำ เรื่องของ โยเซฟบุตรชายยาโคบ ปฐมกาล 37-50 มาแบ่งปัน เป็นบทเรียน หนุนใจร่วมกันในเช้าวันนี้

โยเซฟ​เป็น​บุตรคนแรกของนางราเชล ซึ่งเป็นภรรยาของยาโคบ ซึ่งยาโคบมีบุตรชายทั้งหมด 12 คน เกิดจากภรรยาทั้งหมด 4 คน นางราเชลมีบุตรชาย 2 คน คือโยเซฟ และเบนยามิน โยเซฟเป็นลูก​ที่​ยาโคบ​รัก​มาก​ที่​สุด เพราะ​เขา​เกิด​มา​ตอน​ที่​ยาโคบ​อายุ​มาก​แล้ว และเป็นลูกคนท้ายๆ พี่ชายของเขาจึง​อิจฉา​และ​เกลียด​โยเซฟ​มาก สาเหตุที่พี่ชายเกลียดชังโยเซฟคงมาจากเรื่องที่ยาโคบนั้นรักโยเซฟมากกว่าใครๆ ในครอบครัว และโยเซฟยังเอาเรื่องความผิดของพี่ๆ ไปเล่าให้ยาโคบฟังและนอกจากนั้นตัวของโยเซฟเองยังได้เอาความฝันที่เขาฝัน ไปบอกเล่ากับทุกคนในครอบครัวซึ่งสิ่งที่โยเซฟได้เล่านั้นแสดงออกถึงการตั้งตัวเองเป็นผู้ครอบครองในบ้านหรือบอกเป็นนัยว่าเขาจะเป็นผู้รับมรดกของยาโคบ และการที่ยาโคบเอง ทำเสื้อคลุมให้โยเซฟสวมใส่ ยิ่งเป็นการตอกย้ำและทำให้เกิดความเกลียดชังในตัวโยเซฟมากยิ่งขึ้น และได้ฝันอีก แล้วนำความฝัน​ไป​เล่า​ให้​พวก​พี่​ชาย​ฟัง เมื่อพวกพี่ชาย​ฟัง​แล้ว พวก​พี่​ชาย​ก็​เข้าใจ​ว่า​ความ​ฝัน​นั้น​หมาย​ถึง​พวก​เขา​จะ​ต้อง​ก้ม​กราบ​โยเซฟ พวก​เขา​เลย​เกลียด​โยเซฟ​ยิ่ง​กว่า​เดิม

วัน​หนึ่ง พวก​พี่​ชาย​ของ​โยเซฟ​ไป​เลี้ยง​แกะ​แถว​เมือง​เชเคม ยาโคบ​ให้​โยเซฟ​ไป​ดู​ว่า​พวก​พี่​ชาย​เป็น​อย่าง​ไร​บ้าง พอ​พวก​พี่​ชาย​เห็น​โยเซฟ​แต่​ไกล​ก็​พูด​กัน​ว่า ‘ไอ้​คน​ช่าง​ฝัน​มัน​เดิน​มา​โน่น​แล้ว ฆ่า​มัน​เถอะ! แล้วทิ้งลงบ่อ’ แต่รูเบนอยากช่วยโยเซฟให้พ้นมือพวกพี่ชาย จึงพูดว่า อย่าฆ่าน้องเลย อย่าทำให้โลหิตไหล ให้ทิ้งน้องลงบ่อนี้ในถิ่นทุรกันดาร ทั้งนี้เพื่อช่วยน้องให้พ้นมือพวกเขาแล้วจะส่งกลับให้ยาโคบ เมื่อโยเซฟมาถึงพวกเขาจึงจับ​โยเซฟ​โยน​ลง​ใน​บ่อ​ลึก ขณะที่พวกเขานั่งรับประทานอาหารก็เห็นคาราวานพวกอิชมาเอลมาจากกิเลอาด ​ยูดาห์​บอก​ว่า ‘อย่า​ฆ่า​เขา​เลย ขาย​เขา​ไป​เป็น​ทาส​ดี​กว่า เพราะเขาก็เป็นน้องของเรา’ พวก​เขา​เลย​ขาย​โยเซฟ​ให้​กับ​พ่อค้า​ชาว​มีเดียน​ที่​กำลัง​มุ่ง​หน้า​ไป​อียิปต์​เป็น​เงิน​หนัก 20 เชเขล หลัง​จาก​นั้น พวก​พี่​ชาย​เอาเสื้อคลุม​ยาว​ของ​โยเซฟ​จุ่ม​เลือด​แพะ แล้ว​ให้​คน​เอา​เสื้อ​ตัว​นั้น​ไป​ให้​พ่อ​ดู​และ​ให้​ถาม​ว่า ‘นี่​ใช่​เสื้อ​ยาว​ของ​ลูก​ชาย​ท่าน​หรือ​ไม่ยาโคบ​คิด​ว่า​โยเซฟ​ถูก​สัตว์​ป่า​ฆ่า​ตาย​ไป​แล้ว เขา​เสียใจ​มาก ไม่​มี​ใคร​ปลอบ​ใจ​เขา​ได้​เลย

ที่​อียิปต์นั้น โยเซฟ​ถูก​ขาย​ไป​เป็น​ทาส​ของ​ข้าราชสำนัก​คน​สำคัญ​ชื่อ​โปทิฟาร์ แต่​พระ​เจ้าอยู่​กับ​โยเซฟ โปทิฟาร์​เห็น​ว่า​โยเซฟ​ทำ​งาน​เก่ง​และ​ไว้​ใจ​ได้ ไม่​นาน​โปทิฟาร์​ก็​ตั้ง​โยเซฟ​ให้​ดู​แล​ทรัพย์​สมบัติ​ทั้ง​หมด​ของ​เขา ภรรยา​โปทิฟาร์​เห็น​ว่า​โยเซฟ​เป็นหนุ่มรูปงาม หน้าตาดี เธอ​ชวน​โยเซฟ​ทุก​วัน​ให้​มา​นอน​ด้วย เขา​ไม่​ยอม​และ​พูด​ว่า ‘ไม่! ทำ​อย่าง​นี้​ไม่​ดี เจ้านาย​ไว้​ใจ​ข้าฯ ​มาก และ​ท่าน​ก็​เป็น​ภรรยา​ของ​เขา ถ้า​ข้าฯ ​นอน​กับ​ท่าน ข้าฯ ​ก็​ทำ​บาป​ต่อ​พระเจ้า!’

อยู่​มา​วัน​หนึ่ง ภรรยา​โปทิฟาร์​พยายาม​บังคับ​ให้​โยเซฟ​นอน​กับ​เธอ เธอ​ดึง​เสื้อ​เขา​ไว้​แต่​โยเซฟ​หนี​ไป​ได้ เมื่อ​โปทิฟาร์​กลับ​มา​บ้าน เธอ​กลับ​พูด​โกหก​ว่า​โยเซฟ​พยายามจะมานอนกับ​เธอ โปทิฟาร์​โกรธ​มาก​จึง​จับ​โยเซฟ​ไป​ขัง​คุก แต่​พระ​เจ้า​ไม่​ลืม​โยเซฟ พระเจ้าทรงสำแดงความรักมั่นคงต่อท่าน ทรงให้พัศดีโปรดปราณท่าน มอบให้ท่านเป็นผู้ดูแลนักโทษ และมีเหตุการณ์ต่างๆ อีกมากมายในคุก

ตอน​ที่​โยเซฟ​อยู่​ใน​คุก ฟาโรห์​กษัตริย์​ของ​อียิปต์​ฝัน​เรื่อง​ที่​ไม่​มี​ใคร​อธิบาย​ความ​หมาย​ได้ คน​รับใช้​คน​หนึ่ง​เล่า​ให้​ฟาโรห์​ฟัง​ว่า​โยเซฟ​สามารถ​บอก​ความ​หมาย​ของ​ความ​ฝัน​ได้ ฟาโรห์​จึง​สั่ง​ให้​คน​ไป​พา​ตัว​โยเซฟ​มา​ทันที

ฟาโรห์​ถาม​เขา​ว่า ‘ท่านบอก​ได้​ไหม​ว่า​ความ​ฝัน​ของ​เรา​หมาย​ถึง​อะไร?’ โยเซฟ​ตอบ​ฟาโรห์​ว่า ‘7 ปี​ต่อ​จาก​นี้​จะ​มี​ความ​อุดม​สมบูรณ์​ทั่ว​แผ่นดิน​อียิปต์ แต่ 7 ปี​หลัง​จาก​นั้น จะ​เกิด​การ​ขาด​แคลน​อาหาร ให้​ท่าน​เลือก​คน​ที่​ฉลาด​คน​หนึ่ง​และ​ตั้ง​เขา​ให้​เก็บ​รวบ​รวม​อาหาร​เพื่อ​ประชาชน​จะ​ไม่​อด​ตาย’ ฟาโรห์​บอก​ว่า ‘เรา​เลือก​ท่าน! ท่าน​จะ​มี​อำนาจ​มาก​ที่​สุด​เป็น​อันดับ​สอง​ใน​อียิปต์!’ ที่โยเซฟอธิบายฝันของฟาโรห์ได้นั้นเพราะพระเจ้าอยู่กับท่าน

ช่วง 7 ปี​หลัง​จาก​นั้น โยเซฟ​เก็บ​รวบ​รวม​อาหาร​ได้​มาก​มาย แล้ว​ก็​เกิด​การ​ขาด​แคลน​อาหาร​ไป​ทั่ว​โลก​เหมือน​ที่​โยเซฟ​บอก​ไว้ ผู้​คน​จาก​ทุก​ที่​พา​กัน​มา​ขอ​ซื้อ​อาหาร​จาก​โยเซฟ ยาโคบ​พ่อ​ของ​เขา​ได้​ยิน​ว่า​มี​อาหาร​ที่​อียิปต์ เขา​เลย​ส่ง​ลูก​ชาย 10 คน​ไป​ซื้อ​อาหาร​ที่​นั่น

พวก​ลูก​ชาย​ของ​ยาโคบ​ไป​หา​โยเซฟ โยเซฟ​จำพวก​เขา​ได้​ทันที แต่​พวก​พี่​ชาย​จำ​เขา​ไม่​ได้ จึง​หมอบ​ลง​กับ​พื้น​ต่อ​หน้า​โยเซฟ​เหมือน​กับ​ที่​เขา​เคย​ฝัน​ตอน​เด็ก ๆ โยเซฟ​อยาก​รู้​ว่า​พวก​พี่​ชาย​ยัง​นิสัย​เหมือน​เดิม​อยู่​ไหม เขา​จึง​พูด​ว่า ‘พวก​ท่านเป็น​คน​สอดแนม​ที่​มา​สืบ​ดู​ว่า​เมือง​ของ​เรา​มี​จุด​อ่อน​ตรง​ไหน’ พวก​เขา​ตอบ​ว่า  ‘ไม่​ใช่​! พวก​เรา​มา​จาก​คานาอัน เป็น​พี่​น้อง​กัน​ทั้ง​หมด 12 คน คน​หนึ่ง​ตาย​ไป​แล้ว ส่วน​น้อง​ชาย​คน​เล็ก​อยู่​บ้าน​กับ​พ่อ’ โยเซฟ​บอก​ว่า ‘ไป​พา​น้อง​ชาย​คน​เล็ก​มา​หา​เรา ข้าฯ ​ถึง​จะ​เชื่อ​พวก​ท่าน’ พวก​เขา​จึง​กลับ​บ้าน​ไป​หา​พ่อ

เมื่อ​อาหาร​หมด​ลง ยาโคบ​ก็​ส่ง​พวก​ลูก​ชาย​กลับ​ไป​อียิปต์​อีก ครั้ง​นี้​พวก​เขา​พา​เบนยามิน​น้อง​ชาย​คน​เล็ก​ไป​ด้วย โยเซฟ​ทดสอบ​พวก​พี่​ชาย​โดย​แอบ​ใส่​ถ้วย​เงิน​ไว้​ใน​กระสอบ​ข้าวของ​เบนยามิน​และ​กล่าวหา​ว่า​พวก​พี่​ชาย​เป็น​คน​ขโมย​ไป เมื่อ​คน​รับใช้​ของ​โยเซฟ​เจอ​ถ้วย​อยู่​ใน​กระสอบ​ของ​เบนยามิน พวก​พี่​ชาย​ตกใจ​มาก พวก​เขา​ขอร้อง​ให้​โยเซฟ​ลง​โทษ​พวก​เขา​แทน​เบนยามิน

ตอน​นี้​โยเซฟ​รู้​แล้ว​ว่า​พวก​พี่​ชาย​ไม่​ใจ​ร้าย​เหมือน​เมื่อ​ก่อน โยเซฟ​ไม่​สามารถ​เก็บ​ความ​รู้สึก​ไว้​ได้​อีก​ต่อ​ไป เขา​ร้องไห้​เสียง​ดัง​แล้ว​พูด​ว่า ‘ข้าฯ คือ​โยเซฟ​น้อง​ของ​พี่ พ่อ​ยัง​มี​ชีวิต​อยู่​ไหม?’ พวก​พี่​ชาย​ถึง​กับ​ตกตะลึง แต่​โยเซฟ​บอก​พวก​เขา​ว่า ‘อย่า​เสียใจ​เลย​ที่​ขายข้าฯ ​มา​ที่​นี่ เพราะ​พระเจ้า​ส่ง​ข้าฯ ​มา​เพื่อ​ช่วย​ชีวิต​พวก​พี่ รีบ​ไป​พา​พ่อ​มา​หา​ข้าฯ ที่​นี่​เถอะ’

พวก​เขา​เดิน​ทาง​กลับ​ไป​บอก​ข่าว​ดี​กับ​พ่อ​และ​พา​พ่อ​ไป​อียิปต์ หลัง​จาก​โยเซฟ​ไม่​ได้​เจอ​พ่อ​มา​หลาย​ปี ใน​ที่​สุด​ทั้ง​สอง​คน​ก็​ได้​กลับ​มา​อยู่​ด้วย​กัน​อีก​ครั้ง

 

โยเซฟ เป็นเด็กหนุ่มที่เกิดในครอบครัวที่พี่ๆ มีความอิจฉาแต่ทว่ากลับเป็นผู้ที่เป็นรักยิ่งของบิดา และจากทุ่งหญ้าที่แห้งแล้งสู่เมืองที่เต็มไปด้วยความเจริญรุ่งเรืองและอารยะธรรมที่ยิ่งใหญ่และยาวนานที่สุดในโลก      ชีวิตวัยเด็กของโยเซฟจึงเต็มไปด้วยการเผจญภัยที่น่าตื่นเต้นและระทึกใจจนมีผู้นำเรื่องราวของโยเซฟไปสร้างเป็นภาพยนตร์ออกฉายสู่สายตาชาวโลกมากมายหลายครั้ง และเช่นเดียวกันเรื่องราวเหล่านี้ล้วนแต่ได้รับการบันทึกไว้ในพระธรรมปฐมกาลตั้งแต่บทที่ 37-50 ซึ่งเป็นการบันทึกถึงสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นในสมัยของโยเซฟและ อียิปต์โบราณอย่างและเอียด  คือตั้งแต่การถือกำเนิดของโยเซฟ การเผชิญโลกที่กว้างใหญ่ และการก้าวสู่สิ่งที่เขาฝันไว้เสมอ ชีวิตของโยเซฟจึงไม่ได้เป็นเพียงนิยายโบราณคดีที่เล่าสืบต่อกันมาเรื่อยๆ ในหมู่ของชาวยิวเท่านั้น แต่ชีวิตของโยเซฟเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นและพระเจ้ากำลังสำแดงให้ผู้คนทั่วโลกเห็นถึงพระราชกิจของพระองค์ต่อผู้ที่สัตย์ซื่อและเชื่อฟังพระองค์จะได้รับการอวยพรเสมอแม้อยู่ท่ามกลาง ความน่ากลัวของมนุษย์ที่เต็มไปด้วยความบาป และจากชีวิตของโยเซฟพระเจ้ายังได้สอนเราถึงเรื่องสำคัญหลายเรื่องที่เราควรเอาเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิตกับพระเจ้าในทุกสถานการณ์และบทเรียนจากชีวิตของโยเซฟเป็นสิ่งที่ทำให้เราต้องตระหนักเสมอว่า    “พระเจ้าทรงเป็นผู้ควบคุมอยู่เหนือทุกสิ่งแต่เพียงผู้เดียว”     

โยเซฟเป็นผู้บริหารราชการต่างๆ ของประเทศอียิปต์ในช่วงเวลานั้นเริ่มตั้งแต่การจัดการเรื่องที่สำคัญและเร่งด่วนคือ การเตรียมรับมือกับ การกันดารอาหารที่จะเกิดขึ้นอีกเจ็ดปีข้างหน้า ในช่วงเวลานี้โยเซฟได้มีคำสั่งไปยังหัวเมืองต่างให้ทำการสะสมข้าวและในช่วงเวลานี้พระเจ้าทรงอวยพรโยเซฟอย่างมากมายจนข้าวที่เก็บสะสมไว้มีจำนวนมากจนถึงขนาดที่ไม่สามารถที่จะจดบันทึกหรือคำนวณออกมาได้  และนอกจากนั้นโยเซฟยังได้วางระบบต่างๆ เกี่ยวกับการบริหารและการปกครองให้เป็นรูปแบบไว้ในประเทศอียิปต์ซึ่งระบบเหล่านี้ยังคงมีการยึดถือและปฏิบัติกันมาเรื่อยๆ ในอียิปต์ มีสิ่งที่เราแปลกใจเป็นอย่างมากคือ โยเซฟเป็นถึงผู้นำประเทศอียิปต์ที่มีความเจริญวิชาการที่ก้าวหน้า ในขณะที่มีอายุราวๆ 30 ปี ซึ่งนับได้ว่ายังอยู่ในช่วงที่หลายคนอาจจะมองว่า “อาจจะขาดประสบการณ์” และเราไม่เข้าใจว่า โยเซฟได้รับการสอนในเรื่องของระบบบริหารประเทศจากที่ใด โยเซฟเป็นเพียงบุตรชายของคนที่เร่รอนเลี้ยงสัตว์อยู่กลางทะเลทราย ซึ่งในสมัยนั้นไม่ได้มีมหาวิทยาลัยหรือสถานศึกษาที่เปิดให้คนทั่วไปเข้าไปศึกษาเล่าเรียน มีเพียงคนชั้นสูงในสังคมเท่านั้นที่จะได้รับการเรียนการสอนในวิชาการและความรู้ต่างๆ แต่เรากลับเห็นถึงความสามารถของโยเซฟในการบริหารและการจัดการกับสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นอย่างเป็นระบบในประเทศอียิปต์  สิ่งต่างๆ เหล่านั้นมาจากไหน

และคำตอบที่ดีที่สุดคือ ความยำเกรงพระเจ้าเป็นบ่อเกิดของความรู้นั้นเอง  หลังจากที่โยเซฟถูกขายให้กับโปทิฟาห์ และต้องเข้าไปอยู่ในคุกเขาได้เผชิญกับสิ่งต่างๆมากมายซึ่งสถานที่แห่งนี้เป็นโรงเรียนที่พระเจ้าทรงใช้สอนและเตรียมชีวิตของโยเซฟในการที่จะเป็นผู้นำของประเทศที่ยิ่งใหญ่ในเวลานั้น

เราจะเห็นว่าโยเซฟ ไม่โกรธ ไม่เกลียด ไม่แก้แค้นใครเลย เมื่อมีความบาปมาล่อลวงโยเซฟ โยเซฟต่อสู้ความบาปด้วยการหนี สำหรับเรา เราอาจมีความขมขื่น จากครอบครัว หรือได้รับความเจ็บช้ำน้ำใจจากคนรอบข้าง ซ้ำแล้วซ้ำอีก ขออย่าให้เป็นรากขมขื่นในจิตใจ แต่ขอให้เราเห็นชีวิตของโยเซฟเป็นตัวอย่าง เรื่องราวชีวิตโยเซฟทำให้เราเห็นความสัตย์ซื่อของพระเจ้า และพันธสัญญาของพระองค์ที่ไม่ทรงลืม หากเราได้อ่านเรื่องราวของโยเซฟเราจะเห็นคำกล่าวที่ว่า แต่พระเจ้าอยู่กับโยเซฟอยู่หลายครั้ง พระเจ้าสถิตอยู่กับโยเซฟตลอดเวลา ไม่ว่าสุข หรือทุกข์และช่วยกู้ชีวิตท่าน พระเจ้าสถิตกับโยเซฟฉันใด พระเจ้าก็สถิตกับเราฉันนั้น

ฮีบรู 6:10

เพราะว่าพระเจ้าไม่ทรงอธรรมที่จะทรงลืมการงานของพวกท่านและความรักที่พวกท่านแสดงต่อพระนามของพระองค์ คือการปรนนิบัติพวกธรรมิกชนนั้น ดังที่พวกท่านยังปรนนิบัติอยู่


ขอคุณพระเจ้า ขอบคุณบทความ เรื่องราว คำเทศนาดีๆ ที่ข้าพเจ้าได้นำมารวบรวมเพื่อแบ่งปันในเช้าวันนี้


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น