วันพุธที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2565

การรับยุทธภัณฑ์ทั้งชุดจากพระเจ้า

15 มิถุนายน 2565

การรับยุทธภัณฑ์ทั้งชุดจากพระเจ้า

 

อิสยาห์ 43:2

          เมื่อเจ้าลุยข้ามน้ำ เราจะอยู่กับเจ้า และเมื่อข้ามแม่น้ำ มันจะไม่ท่วมเจ้า เมื่อเจ้าเดินผ่านไฟ เจ้าจะไม่ถูกไหม้ และเปลวเพลิงจะไม่เผาเจ้า

 

ในเอเฟซัส 6:11 ได้บอกเราว่า จงสวมยุทธภัณฑ์ทั้งชุดของพระเจ้า

 

จงสวมยุทธภัณฑ์ทั้งชุดของพระเจ้า (อฟ.6:11-18)

มารซาตานมีกลอุบายนานาประการและมีกำลังมาก เราต้องยอมรับความช่วยเหลือจากพระเจ้า รับยุทธภัณฑ์ทั้งชุดของพระเจ้ามาใส่ไว้ในชีวิตของเรา ส่วนหนึ่งในการรบหรือต่อสู้ศัตรูคือการติดอาวุธ เช่นเดียวกับการต่อสู้มาร พระเจ้าประทานยุทธภัณฑ์ทั้งชุดให้เราแล้ว เราก็ต้องใช้

 

เอเฟซัส 6:11-18 THSV11

11จงสวมยุทธภัณฑ์ทั้งชุดของพระเจ้าเพื่อจะสามารถต่อสู้กับอุบายของมารได้

12เพราะเราไม่ได้ต่อสู้กับเนื้อหนังและเลือด แต่ต่อสู้กับพวกภูตผีที่ครอบครอง พวกภูตผีที่มีอำนาจ พวกภูตผีที่ครองพิภพในยุคมืดนี้ ต่อสู้กับพวกวิญญาณชั่วในสวรรคสถาน

13เพราะเหตุนี้จงรับยุทธภัณฑ์ทั้งชุดของพระเจ้าไว้ เพื่อท่านจะสามารถต่อสู้ในวันชั่วร้ายนั้น และเมื่อทำทุกอย่างแล้วจะยังยืนหยัดอยู่ได้

14เพราะฉะนั้นจงยืนหยัดไว้ เอาความจริงคาดเอว เอาความชอบธรรมเป็นเกราะป้องกันอก

15และเอาความพรั่งพร้อมในการประกาศข่าวประเสริฐแห่งสันติสุขมาสวมเป็นรองเท้า

16และพร้อมกับสิ่งทั้งหมดนี้ จงเอาความเชื่อเป็นโล่ ด้วยโล่นี้พวกท่านจะสามารถดับลูกศรเพลิงทั้งหมดของมารร้าย

17จงเอาความรอดเป็นหมวกเหล็กป้องกันศีรษะ และจงถือพระแสงของพระวิญญาณคือพระวจนะของพระเจ้า

18จงอธิษฐานในพระวิญญาณทุกเวลาโดยการอธิษฐานและการวิงวอนทุกๆ อย่าง เพราะเหตุนี้จงเฝ้าระวังด้วยความเพียรและด้วยการวิงวอนเผื่อธรรมิกชนทุกคนอยู่เสมอ

1) เอาความจริงคาดเอว (เอเฟซัส6:14) โดยปกติทหารโรมันจะใส่เสื้อคลุมยาว ซึ่งจำเป็นต้องคาดเข็มขัด เพื่อทำให้เสื้อผ้ากระชับ เพื่อจะได้เคลื่อนไหวได้อย่างคล่องตัว ทำไมพระเจ้าจึงให้เราเอาความจริงคาดเอว? เพราะซาตานเป็นเจ้าแห่งการหลอกหลวง และล่อลวงให้มนุษย์หลงทำความผิดบาป ดังนั้นการคาดเอว ด้วยความจริงแห่งพระวจนะของพระเจ้าจึงจำเป็นอย่างยิ่งยวด เพราะนั่นหมายถึงการยึดมั่น อยู่ในพระคำของพระองค์ ตามที่พระเจ้าได้ย้ำกับเราเอาไว้ว่า..“สัจจะจะทำให้ท่านทั้งหลายเป็นไท” (ยอห์น8:32) ขอให้เรายึดพระคำของพระเจ้าไว้ เพื่อที่เราจะพร้อมและไม่หวั่นไหว และสามารถเผชิญหน้า กับทุกสถานการณ์ได้อย่างมั่นใจ หากเราเอาความจริงคาดเอว เราก็จะชนะการหลอกลวงของมารได้

2) เอาความชอบธรรมเป็นเกราะป้องกันอก เครื่องป้องกันอก(เอเฟซัส6:14) เสื้อเกราะ ซึ่งทำมาจากแผ่นโลหะสัมฤทธิ์ เสื้อเกราะใช้สวมเพื่อป้องกันหน้าอกและหัวใจจากอาวุธของศัตรู เนื่องจากจิตใจคือจุดศูนย์กลางของชีวิตมนุษย์ ดังนั้น เปาโลจึงหนุนใจให้เราสวม” เสื้อเกราะแห่งความชอบธรรมของพระเจ้า” เพื่อป้องกันจิตใจจากการโจมตีของมารซาตาน ความชอบธรรมในที่นี้คือการรับชีวิตใหม่ จากพระเจ้า(เอเฟซัส4:24) การดำเนินชีวิตในความชอบธรรม(เอเฟซัส5:8-9) และเชื่อมั่นว่าเราเป็นคนชอบธรรมแล้วโดยพระโลหิตของพระคริสต์ (โรม5:1-5,2 โครินธ์5:21,เอเฟซัส2:10)

3) เอาข่าวประเสริฐมาสวมเป็นรองเท้า (เอเฟซัส6:15) รองเท้าของทหารโรมันทำมาจากไม้ มีหนังสานประกบ ส่วนใต้พื้นรองเท้ามีแผ่นเหล็กบางๆเพื่อป้องกันหินคม เหล็กแหลม หรือหนามที่พื้นของรองเท้าจะมีปุ่มหรือโลหะฝังไว้ เพื่อช่วยให้ยืนอย่างมั่นคงและเดินได้สะดวกคล่องแคล่ว

สำหรับคริสเตียน... เราจำเป็นต้องสวมใส่รองเท้าแห่งข่าวประเสริฐ เพราะข่าวประเสริฐเป็นรากฐาน ที่มั่นคงในความเชื่อของเรา ว่าเรารอดโดยพระคุณของพระเจ้า เพราะการตายไถ่บาปของพระเยซูบนไม้กางเขน ทำให้เรากลับคืนดีกับพระเจ้าได้อีกครั้ง และยังสามารถแบ่งปันข่าวดีนี้ให้แก่ผู้คนได้อีกด้วย นี่คือรองเท้าที่เราต้องสวมใส่ทุกวัน

4) เอาความเชื่อเป็นโล่ (เอเฟซัส6:16) โดยปกติโล่ของเหล่าทหารจะทำด้วยไม้ แล้วหุ้มด้วยหนังสัตว์ หรือแผ่นโลหะ มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า เป็นเครื่องป้องกันตัวที่บังได้เกือบมิดทั้งตัว โล่เป็นอาวุธที่ใช้ในการป้องกันลูกธนูเพลิงที่ข้าศึกยิงเข้ามา

แล้วโล่ของคริสเตียนล่ะ...คืออะไร? โล่ของเราก็คือ “ความเชื่อ” ซึ่งในภาษาเดิมหมายถึง ความเชื่อมั่นและวางใจในพระเจ้า เชื่อในความดี ความสัตย์ซื่อของพระเจ้า ยึดมั่นในพระสัญญาของพระองค์ นี่คือโล่ที่จะปกป้องเราจากลูกศรเพลิงของมาร ที่ยิงถาโถมใส่เราทุกวัน ทำให้เราท้อแท้ หมดหวัง สงสัยหรือไม่มั่นใจในความรักของพระเจ้า

5) เอาความรอดเป็นหมวกเหล็กป้องกันศีรษะ (เอเฟซัส6:17) โดยปกติหมวกของทหารโรมัน มักจะทำด้วยโลหะสัมฤทธิ์หรือเหล็ก หมวกเหล็กเป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นมากสำหรับทหารโรมัน เพราะมันช่วยป้องกันศีรษะของนักรบ จากดาบและลูกธนู หากทหารนายไหนไม่สวมหมวกนี้ ก็อาจเสียชีวิตในสนามรบได้อย่างง่ายดาย

เป็นการง่ายมากที่ซาตานจะล่อลวงเราทางความคิด ทำให้เราสงสัยในความรอดที่พระเจ้าประทานให้กับเรา หลายครั้งมารมักจะใช้เหตุการณ์ที่เลวร้าย ใช้เหตุการณ์ที่ยากลำบาก ความผิดหวัง ความล้มเหลว หรือการทดลองต่างๆ มาทำให้ความเชื่อของคริสเตียนสั่นคลอน พระเจ้าจึงให้เราสวมหมวกเหล็ก แห่งความรอดทุกเวลา เพื่อปกป้องความคิดของเรา จากการทดลองของซาตานนั่นเอง

6) จงถือพระแสงของพระวิญญาณ (เอเฟซัส6:17) “พระแสง”หมายถึงมีดสั้นที่แหลมและคมมาก สามารถใช้แทงและฟันได้ในเวลาเดียวกัน เนื่องจากมีคมทั้งสองด้าน เหมาะสำหรับการต่อสู้แบบประชิดตัว ทหารที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีแล้วเท่านั้น จึงจะสามารถใช้มีดสั้นนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เปาโลเปรียบพระวจนะของพระเจ้าเป็นเหมือนพระแสงหรือมีดสั้น เพราะสำหรับซาตาน...พระคำของพระเจ้าคมและอันตรายยิ่งกว่านั้น แต่เป็นอาวุธที่พระเจ้าประทานให้กับผู้เชื่อเพื่อต่อสู้กับเหล่ามาร ในฮีบรู4:12 กล่าวว่า...“เพราะว่าพระวจนะของพระเจ้านั้นไม่ตายและทรงพลานุภาพอยู่เสมอ คมยิ่งกว่าดาบสองคมใดๆ แทงทะลุกระทั่งจิตและวิญญาณ ตลอดข้อกระดูกและไขในกระดูก และสามารถวินิจฉัยความคิด และความมุ่งหมายในใจด้วย” การเรียนรู้และสะสมพระคำของพระเจ้าในชีวิตเป็นสิ่งจำเป็น เพราะเมื่อเราถูกซาตานเล่นงาน พระวิญญาณบริสุทธิ์จะนำพระคำที่เราสะสมไว้ออกมาใช้เพื่อต่อสู้กับมาร นั่นคือการท่องจำและนำไปใช้

7) เมื่อสวมใส่ยุทธภัณฑ์ทั้งชุดของพระเจ้าแล้ว เราไม่สามารถละเลยการอธิษฐาน (เอเฟซัส6:18) เพราะการอธิษฐานแสดงให้เห็นว่าเรากำลังพึ่งพาพระเจ้า เราไม่สามารถต่อสู้ในสงคราม ที่หนักหน่วงนี้เพียงลำพัง เราต้องการพระเจ้าเป็นผู้ช่วยและเสริมกำลังเรา ในการ์ดเราจะเห็นว่า คำว่า จงอธิษฐานในพระวิญญาณทุกเวลา จะอยู่ส่วนของฐานของทุกสิ่ง นั่นคือเราต้องติดสนิทกับพระเจ้า

 

 

 

โดยยึดมั่นในความจริง ความชอบธรรม ข่าวประเสริฐ ความเชื่อที่มั่นคง การกระทำเช่นนี้เป็นการดำเนินชีวิตที่รอบคอบเหมือนพระบิดาที่ทรงเป็นผู้ที่ดีรอบคอบ (มธ.5:48) นอกจากนี้การสวมยุทธภัณฑ์ของพระเจ้ายังช่วยให้ชีวิตของเราได้รับการป้องกันจากการถูกมารโจมตีอีกด้วย

ความทุกข์ยากของเราทำให้เราเข้มแข็ง ผ่านวิกฤติในชีวิตได้ แต่ความสะดวกสบายอาจทำให้เราพลัดตกลงในการทดลองได้ เราควรภูมิใจว่าพระเจ้าอนุญาตให้มีการทดสอบเรา ในที่สุดจะกลายเป็นพรในชีวิตของเรา

เราต้องไม่ลืมว่า เราไม่ได้อยู่ฝ่ายมารซาตาน เราต้องสวมยุทธภัณฑ์ต้านซาตาน ไม่ให้เราพลัดตกหลุมกลายเป็นฝ่ายซาตานโดยไม่รู้ตัว

 

อิสยาห์ 43:2

          เมื่อเจ้าลุยข้ามน้ำ เราจะอยู่กับเจ้า และเมื่อข้ามแม่น้ำ มันจะไม่ท่วมเจ้า เมื่อเจ้าเดินผ่านไฟ เจ้าจะไม่ถูกไหม้ และเปลวเพลิงจะไม่เผาเจ้า

 

ขอให้พระวิญญาณบริสุทธิ์จะช่วยทำให้เราผ่านการทดลอง





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น