วันจันทร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2565

เปลี่ยนแปลงตัวเองให้เป็นคนใหม่ที่ดีกว่าเดิม

 

เปลี่ยนแปลงตัวเองให้เป็นคนใหม่ที่ดีกว่าเดิม

 

โรม 12:2

อย่าลอกเลียนแบบอย่างคนในยุคนี้ แต่จงรับการเปลี่ยนแปลงจิตใจ แล้วอุปนิสัยของท่านจึงจะเปลี่ยนใหม่ เพื่อท่านจะได้ทราบพระประสงค์ของพระเจ้า จะได้รู้ว่าอะไรดี อะไรเป็นที่ชอบพระทัย และอะไรดียอดเยี่ยม

คนเราก็คงจะมีสักครั้งที่อยากเปลี่ยนแปลงปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้น (ข้าพเจ้าก็มีหลาย ๆ ครั้ง) บางทีที่เค้าพูดกันว่า คนเราก็อยากเปลี่ยน อยากเป็นแบบคนอื่น อยากได้ อยากมี บางทีได้เห็น ได้ยินอะไรบ่อยๆ ก็ทำให้คล้อยตามไปได้ง่ายๆ เช่นกัน ใน โรม 12:2 ก็ได้บอกเราว่า อย่าลอกเลียนแบบอย่างตามเปลือกนอก ให้เปลี่ยนแปลงที่จิตใจแล้วอุปนิสัยจะเปลี่ยน พระเจ้าต้องการให้เรารับการเปลี่ยนแปลงจิตใจไปในทางที่ดีขึ้น

เค้าบอกว่า ยุคนี้เป็นยุคสมัยที่เราเลือกได้ จากที่อุปกรณ์ต่างๆ ที่เราใช้งาน เช่นใกล้ตัวที่สุดในปัจจุบันคือ โทรศัพท์มือถือ เราสามารถที่จะปรับหน้าจอมือถือของเราได้ว่าเราต้องการปรับหน้าจอการใช้งานอย่างไรให้เหมาะกับเรา การเลือกเสพข่าวสารต่างๆ มีหลากหลายช่องทางให้เราเลือกมากๆ เช่น YouTube TikTok IG Facebook เป็นต้น ไม่ชอบข้อความ รูปภาพ คลิปไหน โพสต์ของใคร ก็ปัดทิ้ง เลือกอันใหม่ ไม่ชอบใครก็ unfriend ซึ่งหากพูดถึงสมัยก่อนๆ ยุคเดิมๆ มีทางเลือกน้อย มีแค่วิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ก็มีไม่กี่ช่อง 3 5 7 9 อะไรประมาณนี้ เช่นเมื่อถึงเวลาข่าว ก็ต้องนั่งดูตามลำดับข่าว ที่เค้าจัดมา รายการต่างๆ ก็เช่นกัน ก็ต้องนั่งดูตามลำดับดับรายการเช่นกัน ส่วนในยุคที่เรียกว่า คุณเลือกได้ไม่แค่การปรับเปลี่ยนหน้าจอโทรศัพท์เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานเฉพาะบุคคลเท่านั้น อุปกรณ์เครื่องใช้สำนักงาน เครื่องใช้ภายในบ้าน ยานพาหนะ เราก็สามารถปรับเปลี่ยนให้เข้ากับเราได้ จนกระทั่งเค้าบอกว่า คนสมัยนี้จึงกลายเป็นคนที่พยายามจะเปลี่ยนคนรอบข้างให้ได้ เพื่อให้มาทำตามใจเรา เห็นคล้อยไปกับเราในทุกๆ เรื่อง ที่เรียกว่า การยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง คิดว่าโลกต้องหมุนรอบตัวเรา

ข้าพเจ้าก็คนหนึ่งที่ยังมีชีวิตอยู่ที่มีโอกาสได้อยู่ในช่วง คุณเลือกได้ ในปลายๆ ชีวิตนี้เช่นกัน แต่ก็อยู่ในยุค ทางเลือกน้อยยาวนานกว่า การเสพข่าวสารต่างๆ หากเรารู้จักที่จะเลือกแล้ว เป็นโอกาสในการได้รับประโยชน์มากมาย แม้กระทั่งพระคัมภีร์ จากเดิมเล่มหนาๆ ก็มาอยู่ในโทรศัพท์มือถือ สามารถพกพาไปได้ทุกที่ แต่เราก็ยังมีข้ออ้างมากมายอยู่ดีที่จะไม่ยอมเปิดขึ้นมาอ่าน ศึกษา (ข้าพเจ้าเองด้วยเช่นกัน) ข้าพเจ้าได้ฟังอาจารย์ขุนเขา(สินธุเสน เขจรบุตร) จาก YouTube ให้ข้อคิดเรื่อง เปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ หรือ 4 ร.  ซึ่งข้าพเจ้านำส่วนหนึ่งมาแบ่งปันในเช้านี้

เปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ 4 ประการ หรือ 4 ร.

1.    รู้

2.    รับ

3.    เรียน

4.    เริ่ม

 

1.    รู้ รู้ตัวก่อน เรารู้ตัวหรือไม่ว่าเรามีสิ่งใดที่ต้องเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้น ที่ต้องเร่งเปลี่ยนแปลง ที่ทำไปแล้วมีผลกระทบต่อผู้อื่นในทางที่เสีย สิ่งที่ทำแล้วมีผลเสียต้องเจ็บปวดเองในระยะยาว เช่น เป็นคน ขี้โกรธ ขี้เกียจ ขี้วีน ขี้โวย ขี้บ่น เสพติดบางสิ่งที่ไม่ป็นผลดีต่างๆ เค้าบอกว่า ในยุคนี้คนเรา มองจอมากไป มองใจน้อยเกินหากเราคิดดูว่ายุคนี้ เราอาจรู้จัก หรือรับรู้เรื่องราวของคนจากการมองจอ เห็นด้านนอกของคนแล้วตัดสิน เรามักสนใจคนอื่นเผลอวิภาควิจารณ์ตำหนิชี้แนะต่อว่าผู้อื่น รู้จักผู้อื่นมากกว่ารู้จักตัวเอง แนะนำผู้อื่น จนกระทั่งผู้อื่นพัฒนาในทางที่ดีขึ้น แต่เรากลับลืมพัฒนาตัวเอง การพัฒนาตัวเองเราอาจถามคนอื่นๆ ด้วยก็ได้ว่าเรามีอะไรต้องปรับปรุงบ้าง ไม่ควรต้องการแต่เฉพาะคนชม คนประจบ ฟังแต่สิ่งที่อยากฟัง ใครแนะนำก็ไม่ฟัง จึงทำให้ไม่มีใครกล้าบอก กล้าแนะนำ และข้อที่สำคัญในชีวิตคริสเตียนก็คือ เป็นคริสเตียนที่ทำสิ่งที่พระเจ้าไม่ได้รับเกียรติในชีวิตของเรา ซึ่งพระเจ้าต้องการให้เราส่องสว่างแก่คนทั้งปวง ใน มัทธิว 5: 16 ทำนองเดียวกันพวกท่านจงส่องสว่างแก่คนทั้งปวง เพื่อว่าเมื่อเขาทั้งหลายได้เห็นความดีที่ท่านทำ พวกเขาจะได้สรรเสริญพระบิดาของท่านผู้สถิตในสวรรค์อย่าให้ใครต้องต่อว่า นี่เหรอคริสเตียน คำพูดกับการกระทำสวนทางกัน ทำให้พระเจ้าไม่ได้รับเกียร์ติในชีวิตเรา

2.    รับ คือ การยอมรับ (ยอมรับว่าจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลง ยอมรับผลที่จะเกิดขึ้นหากไม่เปลี่ยน) เช่น จากการที่เรารู้ว่าตัวเองเป็นคนขี้โกรธ ขี้เกียจ แต่ไม่ยอมรับ เค้าบอกว่า รู้ใช้หัว แต่รับใช้ใจยอมรับ เช่นรู้ว่าอ้วน แต่ไม่ยอมรับว่าอ้วนแล้วสุขภาพจะไม่ดี รู้ว่าขี้เกียจแต่ไม่ยอมรับว่าผลที่ตามมา เค้าบอกว่า ถ้าเรายังไม่กล้าที่จะพุ่งเข้าหาความเจ็บปวด เราจะชวดการพัฒนาตัวเองทั้งชีวิต หากเราหนีความเจ็บปวดที่จะยอมรับว่าจะเกิดผลเสียกับผู้อื่น หรือกับตัวเราเอง เราจะไม่สามารถก้าวข้ามไปพัฒนาตัวเอง เราจะก้าวผ่านไปไม่ได้เลยหากเราหนีความเจ็บปวด ไม่ทนความเจ็บปวดเมื่อโดนกระแทกความเป็นตัวตนของตัวเอง การยอมรับไม่ใช่การยอมแพ้ แต่มันคือจุดเริ่มต้นของการแก้สิ่งที่แย่ให้เป็นเยี่ยม

3.    เรียน เมื่อเรายอมรับแล้ว เราต้องเรียนวิธีการเปลี่ยนแปลงตัวเอง เช่นต้องการมีสุขภาพดี จะต้องออกกำลังกายอย่างไร หรือติดบุหรี่แล้วจะเลิกบุหรี่อย่างไร มีวิธีพัฒนา เรียนรู้ มากมาย ที่เรียกยุคนี้ว่า เป็นยุค คุณเลือกได้ เช่นเดียวกับเรื่องของความเศร้า แล้วเราก็เลือกฟังเพลงที่มันเศร้าทำให้เราดำดิ่งลึกจมลงไปเรื่อยๆ จนเราคิดว่าเพลงนี้ใช่เลย เหมาะกับฉัน และไม่ยอมหายเศร้าสักที โดยยอมไม่เปลี่ยนมาฟังเพลงให้กำลังใจ เช่นเพลงหนุนใจ

4.    เริ่ม การเริ่มต้นทำสิ่งสำคัญต้องใช้ความกล้าหาญแต่การทำสิ่งสำคัญนั้นให้สำเร็จต้องอาศัยวินัย ต้องเริ่มในทุกๆ วันอย่างต่อเนื่อง เช่นต้องการเป็นคนหุ่นดี เริ่มปรับเรื่องอาหารและออกกำลังกาย เริ่มในวันที่ 1 แล้วก็จบวันที่ 2 ไม่ใช่จบหลักสูตร แต่จบไปเลย แต่ก็ไม่เป็นไรเราต้องไม่ท้อ สามารถเริ่มต้นใหม่ได้ เช่นเดียวกับที่เราเริ่มต้นวันใหม่กับพระเจ้าในทุกๆ วัน เค้าบอกว่า ยิ่งเริ่มให้บ่อยเท่าไหร่ เราก็จะยิ่งเปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่เร็วเท่านั้น  เช่น จะอาบน้ำในวันนี้ให้นานที่สุด หลายๆ ชั่วโมง เพื่อปีหน้าค่อยอาบใหม่ ก็เป็นไปไม่ได้ว่าจะสะอาด หอม นานได้หลายเดือน เราต้องอาบน้ำทุกวัน เพื่อให้เราสะอาดทุกวัน หากเราเริ่มแล้วอาจมีบางวันก็ท้อบ้างเป็นธรรมดาจากความเป็นมนุษย์ เราก็สามารถมารับพลังจากพระเจ้าใหม่ได้ แล้วก็เริ่มใหม่ ไม่ต้องโทษตัวเอง พลาดแล้วเริ่มใหม่ ไม่เป็นไร

จริงๆ แล้วหากเราไม่ยอมเปลี่ยนแปลงเราก็จะได้รับผลที่เกิดขึ้นกับตัวเราเอง ซึ่งเราจะรอให้ผลนั้นมากระแทกให้เราเจ็บ ให้ใจเราแตกสลายก่อนจึงจะเปลี่ยนภายหลังหรือไม่ เหมือนตัวข้าพเจ้าเอง ต้องให้ป่วยก่อนจึงจะยอมดูแลสุขภาพ พักผ่อนให้เพียงพอ ทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ บางทีเราบอกว่า เรารู้หมดทุกอย่างว่ามันต้องเปลี่ยนแล้วจะเกิดผลดี แต่เราจะเป็นของเราแบบนี้แหละ จึงทำให้เราเปลี่ยนไม่ได้ ฤทธิ์เดชของพระวจนะจึงเกิดกับเราไม่ได้ ยอห์น 12:24 เราบอกความจริงกับพวกท่านว่า ถ้าเมล็ดข้าวไม่ได้ตกลงดินและตายไป ก็จะคงอยู่เมล็ดเดียว แต่ถ้าตายไปแล้วก็จะงอกขึ้นเกิดผลมาก หากชีวิตเราไม่ยอมเปลี่ยนแปลง ไม่ยอมให้พระเจ้าขัดเกลา สุดท้ายเราก็จะกลายเป็นเมล็ดเดียว เมล็ดเน่า ไม่ตกในดิน เหี่ยวเฉา ไม่งอกเกิดผล ต้องไม่ยึดติดตัวเองมากเกินไป ถ้าให้ชีวิตที่เกิดผล เราต้องยอมให้พระเจ้าเปลี่ยนแปลง ยอมตายจากชีวิตเดิม เราสามารถที่จะเริ่มใหม่กับพระเจ้าได้เสมอในทุกๆ วัน ถึงแม้บางครั้งเราอาจผิดพลาด ความเชื่ออาจถดถอย พบเจอหินสะดุด แต่ให้เราจดจ้องที่พระเจ้า หันกลับมาเปลี่ยนแก้ไขที่ตัวเรา ไม่จำเป็นต้องโทษคนรอบข้าง ไม่ใช่ให้ผู้อื่นต้องแก้ไขให้เป็นไปตามเรา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจเกิดขึ้นสำหรับเราโดยเฉพาะเพื่อเป็นผลดีในอนาคต อดทนยอมรับที่จะเจ็บปวดกับเหตุการณ์บางอย่าง ไม่จำเป็นที่ต้องพยายามหาเหตุผลของเหตุการณ์จนเกินไป เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวเรานั้นอาจดูแล้วเป็นเหตุการณ์ที่แย่ๆ ในวันที่ยากลำบาก แต่จะทำให้เราได้ดึงศักยภาพของเราออกมา หากเราผ่านจุดแย่ๆ ได้ เราจะมีเรื่องเล่าจากวันที่เคยแย่ กลายมาเป็นเรื่องเล่าบนรอยยิ้มของเรา เพราะบทเรียนที่แสนยากลำบากในบางช่วงของชีวิต จะมีโอกาสได้ถูกนำไปใช้ในงาน ในชีวิตส่วนตัว หรือเหตุการณ์ที่สำคัญก็เป็นได้ ทำให้เราได้ก้าวขึ้นต่อไปในอนาคต

 

โรม 12:21 อย่าให้ความชั่วชนะเราได้ แต่จงชนะความชั่วด้วยความดี

 

30 สิงหาคม 2565


ขอบคุณพระเจ้า ขอบคุณบทความดีๆ ที่ได้เป็นข้อคิดเพื่อรวบรวมนำมาแบ่งปัน 

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น