วันเสาร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

ความถ่อมใจเดินอยู่ข้างหน้าเกียรติ

 

ความถ่อมใจเดินอยู่ข้างหน้าเกียรติ

 พฤศจิกายน 2563

สุภาษิต 15:33

          ความยำเกรงพระเจ้าเป็นการสอนให้เกิดปัญญา และความถ่อมใจเดินอยู่ข้างหน้าเกียรติ

 

            เมื่อเวลาเรารู้สึกว่ามีเกียรติ มีชื่อเสียง มีคนเคารพ เราก็จะรู้สึกภูมิใจในตัวเอง ความหยิ่งก็จะเกิดขึ้นใจจิตใจเล็ก ๆ นานวันจากหยิ่งเล็ก ๆ ก็จะโตขึ้นๆ ซึ่งความรู้สึกภูมิใจในตัวเองไม่ได้หมายถึงว่าเป็นสิ่งที่ไม่ดี ซึ่งเราควรที่จะภูมิใจในตัวเอง ภูมิใจในสิ่งที่พระเจ้าประทานให้ ไม่ดูถูกตัวเอง แต่พระเจ้าสอนให้เราอย่าลืมการให้เกียรติผู้อื่น ฟิลิปปี 2:3 “อย่าทำสิ่งใดในทางชิงดีกันหรือถือดี แต่จงมีใจถ่อมถือว่าคนอื่นดีกว่าตัว

            ความหมายของความถ่อมใจนั้นไม่ได้หมายถึงการยอม การด้อย การเงียบ การไม่พูด แต่เป็นการให้เกียรติผู้อื่น พูดในสิ่งที่ควรพูดอย่างสุภาพ ไม่ยกตนข่มท่าน แต่ส่วนใหญ่ความเป็นมนุษย์มักจะลืมตัวตนที่แท้จริงของตนเอง เมื่อได้รับสิ่งที่ดูสูงค่ากว่าผู้อื่นคนเราก็จะเริ่มหยิ่ง นำสิ่งที่สูงค่ากว่าผู้อื่นมาวัดค่าผู้อื่น กดผู้อื่นให้ต่ำลง / ความถ่อมใจไม่ไช่เป็นลักษณะของการเสแสร้งให้ดูถ่อมใจ ทั้ง ๆ ที่เป็นคนหยิ่ง / ความเก่งไม่จำเป็นต้องแสดงออกถึงความเก่ง อยากให้คนอื่นคิดว่าเราเก่ง โดยยกตนข่มท่าน ยิ่งการมีตำแหน่งสูงเท่าไหร่เราอาจจะกลัวผู้ที่สูงกว่าหรือคนต่ำกว่าคิดว่าเรารู้น้อย จึงมักแสดงออกในท่าทีที่ยกตนข่มท่าน ทำเสียงดังๆ พูดให้มากที่สุดให้ผู้อื่นรู้ว่าเรารู้ทุกอย่าง คนเก่งไม่จำเป็นต้องพูดทั้งหมดในสิ่งที่ตัวเองรู้ แต่เป็นการพูดในเวลาที่เหมาะสม ความเก่งจะออกมาด้วยการกระทำและคำพูดที่เหมาะสมในสถานที่ และเวลา สถานการณ์นั้น ๆ มากกว่า

คำอุปมาเรื่องคนฟาริสีและคนเก็บภาษี เป็นคำสอนที่พระเยซูยกตัวอย่างที่เราจะเห็นภาพได้อย่างชัดเจน

ลูกา 18:9-14

        9 สำหรับบางคนที่ไว้ใจในตัวเองว่าเป็นคนชอบธรรม  และได้ดูหมิ่นคนอื่นนั้น  พระองค์ตรัสคำอุปมานี้ว่า

        10 “มีสองคนขึ้นไปอธิษฐานในบริเวณพระวิหาร  คนหนึ่งเป็นพวกฟาริสีและคนหนึ่งเป็นพวกเก็บภาษี

    11 คนฟาริสีนั้นยืนนึกในใจของตน  อธิษฐานว่า  'ข้าแต่พระเจ้า  ข้าพระองค์โมทนาขอบพระคุณ ของพระองค์  ที่ข้าพระองค์ไม่เหมือนคนอื่น  ซึ่งเป็นคนโลภ  คนอธรรม  และคนล่วงประเวณี  และไม่เหมือนคนเก็บภาษีคนนี้

        12 ในสัปดาห์หนึ่งข้าพระองค์ถืออดอาหารสองหน  และของสารพัดซึ่งข้าพระองค์หาได้ข้าพระองค์ ได้เอาสิบชักหนึ่งมาถวาย

       13 ฝ่ายคนเก็บภาษีนั้นยืนอยู่แต่ไกล  ไม่แหงนดูฟ้า  แต่ตีอกของตนว่า  'ข้าแต่พระเจ้า  ขอทรงโปรด พระเมตตาแก่ข้าพระองค์ผู้เป็นคนบาปเถิด'

    14 เราบอกท่านทั้งหลายว่า  คนนี้แหละเมื่อกลับลงไปยังบ้านของตนก็นับว่าชอบธรรม  มิใช่อีกคนหนึ่งนั้น  เพราะว่าทุกคนที่ยกตัวขึ้นจะต้องถูกเหยียดลง  แต่ทุกคนที่ได้ถ่อมตัวลงจะต้องถูกยกขึ้น”

ฟาริสี เป็นคนเย่อหยิ่ง โอ้อวดในความดีงามของตัวเอง เขาไม่ได้เข้าไปในพระวิหารเพื่ออธิษฐานต่อพระเจ้า แต่เพื่อประกาศต่อผู้คนว่าเขาเป็นคนดีเพียงใด ส่วนคนเก็บภาษีไปพระวิหารเพราะเขาสำนึกผิด และตระหนักถึงความบาปของตัวเองและทูลขอความเมตตาจากพระเจ้า การถือว่าตัวเองนั้นดี เป็นคนชอบธรรมนั้นอันตรายเพราะจะนำไปสู่ความเย่อหยิ่ง ทำให้รังเกียจผู้อื่น แต่คนเก็บภาษีนั้นเขาสำนึกผิด และพระเจ้าฟังคำอธิษฐานของเขา เพราะเขาถ่อมใจ

การที่เราคิดว่าเราสมบูรณ์แบบ ประสบผลสำเร็จในชีวิต อาจทำให้เราเผลอทำตัวเป็นผู้พิพากษา คอยตัดสินผู้อื่น

 

ในข้อ 14 ข้างต้นก็ได้กล่าวว่า “...เพราะว่าทุกคนที่ได้ยกตัวขึ้นจะต้องถูกเหยียดลง  และผู้ที่ถ่อมตัวลงนั้นจะได้รับ การยกขึ้น”

เราต้องยอมเป็นภาชนะว่างเปล่าที่พระเจ้าจะทรงทำงานและสำแดงสง่าราศีของพระองค์ ผ่านความเต็มใจและเชื่อฟังของเรา ในสายพระเนตรของพระเจ้า ความมีเกียรตินั้นจะได้มาก็ด้วยการที่คนๆนั้นมีใจถ่อมสุภาพ ยอมรับใช้ผู้อื่น ไม่เป็นคนหยิ่งผยอง ถือตัว และอวดตัว แต่คำนึงถึงผู้อื่นเสมอ นี่คือคุณค่าที่แท้จริงของความเป็นคน ไม่แสวงหาสถานภาพที่สูงส่งแต่มีความสุขที่ได้ถ่อมใจรับใช้ผู้อื่น ซึ่งเป็นเกียรติที่คนเห็นเองว่าคนนั้นคือผู้ที่สมควรจะได้รับ

เค้าบอกว่าหากเราเปรียบเทียบความถ่อมใจกับต้นไม้ ความถ่อมใจเปรียบเหมือนรากที่อยู่ใต้ดิน เปรียบเหมือนจิตใจที่มองไม่เห็น ส่วน กิ่ง ก้าน ใบ และผลของต้นไม้ เปรียบเหมือนสิ่งที่แสดงออกมาให้คนอื่นเห็นผลจากภายในจิตใจของเรา

ไม่ว่าเราจะเผชิญขวากหนาม เจออุปสรรค เจอจุดต่ำสุด เจอความทุกข์ยาก เจอบาดแผลก็ขอให้เรารู้ว่าเมื่อพระเจ้าอนุญาตให้เกิดขึ้นเพื่อให้เราเกิดความถ่อมใจ และจะไม่ให้สิ่งที่เกิดขึ้นเกิดสูญเปล่าไป มันจะสร้างให้เราหนักแน่น สร้างให้เราเข้าใจบางอย่าง สร้างให้เราเข้าใจผู้อื่น เป็นพยานชีวิตให้เป็นพระพรส่งต่อผู้อื่นได้ เมื่อผู้อื่นมีปัญหาที่คล้ายกับเรา เราสามารถที่จะให้คำแนะนำ หนุนใจ ผู้นั้นได้ดีกว่าผู้อื่นที่ไม่เคยเจอ เนื่องจากสิ่งที่เกิดขึ้นกับเรามันเป็นประสบการณ์จริงของเรา เมื่อพระเจ้าอนุญาตให้เกิดขึ้น พระองค์จะอยู่คอยช่วยเหลือเราตลอดเส้นทาง / แต่หากเราได้รับความสำเร็จ ได้รับสิ่งที่สูงสุดในชีวิต หรือสูงเหนือผู้อื่น ก็ขอพระเจ้าอย่าให้เราได้โอ้อวด ขอให้เราถ่อมใจ

ซี เอส ลูอิส (C.S Lewis) ได้พูดว่า การถ่อมใจแท้ไม่ใช่การคิดว่าตัวเองเล็กน้อย  แต่เป็นการคิดถึงตัวเองน้อยลง ไม่ได้หมายถึงเราทำอะไรได้เล็ก ๆ น้อย ๆ เป็นคนที่ใช้การไม่ได้ แต่เป็นการคิดถึงตัวเองน้อยลง และเห็นพระคุณของพระเจ้าในชีวิตของเรา

1 เปรโต 5:6

“เหตุฉะนั้น ท่านทั้งหมายจงถ่อมใจลงภายใต้พระหัตถ์อันทรงฤทธิ์ของพระเจ้า เพื่อว่าพระองค์จะได้ทรงยกท่านขึ้นเมื่อถึงเวลาอันควร”

 

** ในเช้านี้ข้าพเจ้าขอฝากข้อคิด และเป็นข้อคิดสำหรับตัวข้าพเจ้าเอง จากคำอธิษฐานของคนเก็บภาษีน่าจะเป็นคำอธิษฐานของเราในทุก ๆ วัน เพื่ออย่าให้เกิดความหยิ่งในสิ่งที่เราทำสำเร็จ หรือประสบผลสำเร็จ ตัดเราออกห่างจากพระเจ้าเลย บางทีการที่รู้เยอะก็กลายเป็นสิ่งน่ากลัวเป็นหลุมพลางตาให้เราพลัดตกลงในบาปได้อย่างง่ายดาย

 

สุภาษิต 29:23(Proverbs 29:23)

ความเย่อหยิ่งของคนนำเขาให้ต่ำลง แต่คนที่มีใจถ่อมจะได้รับเกียรติ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น