วันจันทร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2566

อัศจรรย์ความรักพระเจ้า

 

อัศจรรย์ความรักพระเจ้า

27 ธันวาคม 2022

1 ยอห์น 4:9-10 TH1971

9โดยข้อนี้ความรักของพระเจ้าก็เป็นที่ประจักษ์แก่เราทั้งหลาย คือพระเจ้าทรงใช้พระบุตรองค์เดียวของพระองค์เข้ามาในโลก เพื่อเราทั้งหลายจะได้ดำรงชีวิตโดยพระบุตร 10ความรักที่ข้าพเจ้าพูดถึงนี้มิใช่ที่เรารักพระเจ้า แต่ที่พระองค์ทรงรักเรา และทรงใช้พระบุตรของพระองค์มาทรงเป็นผู้ลบล้างพระอาชญาที่ตกกับเราทั้งหลายเพราะบาปของเรา

ในช่วงเทศกาลคริสต์มาส เป็นช่วงเวลาแห่งความสุข มีการประดับด้วยแสงสีไฟและกล่องของขวัญ ตามสถานที่ต่างๆ เป็นเทศกาลที่ครอบครัวได้ใช้เวลารับประทานอาหารร่วมกันและซื้อของขวัญมอบให้แก่กันและกัน

เทศกาลคริสต์มาสเป็นเทศกาลที่มีผู้คนเปิดใจรับฟังเรื่องพระเยซูคริสต์ ทำให้ผู้คนมีโอกาสได้ยินข่าวประเสริฐเรื่องพระคริสต์มาตายไถ่บาปบนไม้กางเขน เทศกาลคริสต์มาสเป็นเทศกาลแห่งการให้ของขวัญเพราะพระเยซูคริสต์เป็นของขวัญอันล้ำค่าที่พระเจ้าประทานให้กับโลกนี้เพื่อให้ผู้คนได้รับชีวิตนิรันดร์(ยน.3:16) ผู้ที่ได้รับของขวัญนี้ชีวิตจะไม่เหมือนเดิม แต่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างอัศจรรย์

จอห์น นิวตัน(John Newton) ผู้ซึ่งครั้งหนึ่งดำเนินชีวิตเป็นกัปตันเรือค้าทาส แต่เมื่อท่านได้มารู้จักพระคุณของพระเจ้า ชีวิตของท่านได้เปลี่ยนไป ในปี ค.ศ.1764 ท่านได้รับใช้พระเจ้าในฐานะ ศิษยาภิบาลของคริสตจักรประจำชาติอังกฤษที่ได้รับการแต่งตั้ง ท่านมีชื่อเสียงในฐานะผู้ประพันธ์บทเพลงนมัสการพระเจ้าที่เป็นอมตะหลายเพลง เพลงหนึ่งที่เราคุ้นเคยคือ “พระคุณพระเจ้า” (Amazing Grace) หากปราศจากพระเจ้า จอห์น นิวตัน ก็คงจบชีวิตลงแบบสิ้นหวังและอาจทิ้งชื่อของท่านไว้บนโลกนี้ในฐานะกัปตันเรือค้าทาสผู้ไร้เมตตาธรรม แต่เพราะมีพระเจ้า แม้ท่านอาจมิได้มีเงินทองร่ำรวยมั่งคั่งเหมือนขณะที่ท่านค้าทาส แต่ชื่อเสียงของท่านที่ทิ้งไว้บนโลกนี้หลังจากที่ท่านจากไปเมื่อปี 1807 นั้น ได้บันทึกถึงเรื่องราวแห่งเกียรติและศักดิ์ศรีที่ได้รับเสียงสรรเสริญจากคริสเตียนและคนต่างๆ ทั่วโลก

พระคุณของพระเจ้าเป็นสิ่งที่อัศจรรย์สำหรับชีวิตของท่าน ที่ท่านได้รับความรักของพระเยซูคริสต์ ชีวิตจึงเปลี่ยนไป และท่านได้มอบความรักของพระองค์ออกไปสู่คนทั่วโลกผ่านบทเพลงและคำเทศนา

 

พระวจนะใน 1 ยอห์น 4:9 – 10 นี้กล่าวถึงความรักของพระเจ้าที่พระองค์ทรงสำแดงให้เราประจักษ์ชัดได้ผ่านการมาบังเกิดเป็นมนุษย์ของพระเยซูคริสต์ เป็นความรักที่ไม่มีเงื่อนไข และนำมาซึ่งการลบล้างความบาปผิดในชีวิตของเรา

ศาสนาเป็นวีธีการที่จะพาคนไปหาพระเจ้า แต่พระเยซูคริสต์เป็นพระเจ้าที่มาหามนุษย์ เราจะสัมผัสได้โดยการเปิดใจก่อน

ยอห์นได้เขียนในข้อ 9 ว่า “...เพื่อเราทั้งหลายจะได้ดำเนินชีวิตโดยพระบุตร” คือดำเนินชีวิตโดยเรียนรู้จากพระองค์ พึ่งพากำลังที่มาจากพระเจ้าในการตอบสนองต่อสถานการณ์ต่างๆ อย่างถูกต้อง และเป็นคนใหม่ที่ชอบธรรมแล้วผ่านความเชื่อในการหลั่งโลหิตของพระเยซูเพื่อไถ่บาปเรา เราสามารถเรียนรู้และเข้าใจความรักของพระคริสต์ได้ดังนี้

1.รักที่เสียสละ (ข้อ 9)

พระวจนะกล่าวว่า “โดยข้อนี้ความรักของพระเจ้าก็เป็นที่ประจักษ์แก่เราทั้งหลาย คือพระเจ้าทรงใช้พระบุตรองค์เดียวของพระองค์เข้ามาในโลก เพื่อเราทั้งหลายจะได้ดำรงชีวิตโดยพระบุตร” พระวจนะกล่าวถึงพระเยซูคริสต์ว่าทรงเป็น “พระบุตรของพระเจ้า” แท้จริงพระเยซูคริสต์ทรงเป็นพระเจ้า มีฤทธิ์อำนาจอยู่เหนือทุกสิ่ง แต่กลับมิได้ทรงถือการเท่าเทียมกับพระเจ้านั้นเป็นสิ่งที่ต้องยึดถือ ซึ่งได้กล่าวไว้ใน ฟิลิปปี 2:6 - 7 พระองค์ทรงบังเกิดเป็นมนุษย์ในสภาพของเนื้อหนัง เพื่อเป็นแบบอย่างแก่เราในการดำเนินชีวิตติดตามพระเจ้า รวมทั้งมอบชีวิตของพระองค์เองเป็นค่าไถ่บาปแก่เรา เพื่อคนที่วางใจในพระองค์จะได้รับชีวิตใหม่ เปลี่ยนแปลงไปเป็นเหมือนพระเยซูคริสต์มากยิ่งขึ้น และฟื้นขึ้นจากความตายไปอยู่ร่วมกับพระองค์บนแผ่นดินสวรรค์ ดังที่พระวจนะในข้อ 9 นี้กล่าวว่า “...เพื่อเราทั้งหลายจะได้ดำรงชีวิตโดยพระบุตร” ความรักของพระเยซูคริสต์จึงเป็นความรักที่เสียสละ หากเราซาบซึ้งในความรักที่เสียสละของพระองค์ เราเองก็จะดำเนินชีวิตที่ยินดีเสียสละเพื่อเห็นแก่ผู้อื่น นำคนกลับมาพบพระคุณความรักของพระเจ้า เหมือนที่พระคริสต์ได้นำคนมากมายกลับมาหาพระบิดา

2.รักที่ลบล้างความผิด (ข้อ 10)

พระวจนะกล่าวว่า “ความรักที่ข้าพเจ้าพูดถึงนี้ มิใช่ที่เรารักพระเจ้า แต่ที่พระองค์ทรงรักเรา และทรงใช้พระบุตรของพระองค์มาทรงเป็นผู้ลบล้างพระอาชญาที่ตกกับเราทั้งหลายเพราะบาปของเรา” แท้จริงมนุษย์ทุกคนเป็นคนบาป และเพราะบาปของเราทั้งหลายเป็นเหตุให้เราสมควรรับการลงโทษ แต่เพราะความรักที่พระเจ้าทรงมีต่อเรา พระองค์จึงทรงประทานพระคริสต์ในสภาพของเนื้อหนังมาเพื่อรับการปรับโทษบาปแทนเราบนไม้กางเขน (รม.8:3) ความรักของพระเยซูคริสต์จึงเป็นการให้อภัยที่ปราศจากเงื่อนไข โดยไม่ขึ้นอยู่กับความดีที่เราทำ แต่โดยพระคุณที่เราได้รับแม้เราไม่สมควรจะได้

คอร์รี่ เทน บูม (Corrie Ten Boom) นักศาสนศาสตร์และนักเขียนชาวเนเธอร์แลนด์เชื้อสายยิวเป็นผู้เขียนหนังสือ The Hiding Place ซึ่งกล่าวว่า "การให้อภัยเป็นกุญแจสำคัญที่ไขประตูแห่งความแค้นและกุญแจมือของความเกลียดชัง เป็นอำนาจที่จะหักโซ่ตรวนของความขมขื่นและห่วงโซ่ของความเห็นแก่ตัว

เธอเคยมีประสบการณ์แห่งการให้อภัยที่ยิ่งใหญ่ดังเช่นพระคริสต์ได้ให้อภัยความบาปของเธอ เมื่อช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ครอบครัวของเธอเป็นส่วนหนึ่งที่รอดตายจากเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว(Holocaust)พี่สาวของเธอต้องตายโดยการทำทารุณกรรมโดยทหารนาซีผู้หนึ่ง และเธอจำคนนั้นได้อย่างไม่มีวันลืมเพราะความแค้น  จนวันหนึ่งเธอได้ต้อนรับพระเยซูคริสต์ เธอได้ซาบซึ้งถึงความรักของพระองค์ที่มาตายไถ่บาปและให้อภัยความบาปของเธอ เธอได้ถวายชีวิตเพื่อการรับใช้พระองค์โดยการเดินทางไปเทศนาประกาศข่าวประเสริฐทั่วโลก

จนวันหนึ่งเธอได้นำผู้คนรับเชื่อในพระเยซูคริสต์ และมีชายคนหนึ่งออกมารับเชื่อพระเยซูคริสต์ ผู้ชายคนนั้นคือทหารนาซีคนนั้นที่ทำให้พี่สาวของเธอต้องตาย แต่เธอได้ตัดสินใจให้อภัยชายผู้นั้นเพราะเธอได้ประจักษ์ถึงความรักของพระคริสต์ เพราะความรักลบล้างความผิดมากมายได้ จาก 1 เปรโต 4:8

การให้อภัยเป็นกุญแจสำคัญที่ไขประตูแห่งความแค้นและกุญแจมือของความเกลียดชังในชีวิตของเธอ...

ยอห์น 3:16 เพราะว่าพระเจ้าทรงรักโลก จนได้ทรงประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่วางใจในพระบุตรนั้นจะไม่พินาศ แต่มีชีวิตนิรันดร์

ของขวัญที่ดีเลิศ คือ พระเจ้าทรงประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์ ซึ่งมีเงื่อนไขเดียวที่จำเป็น คือ การที่เราเชื่อและวางใจในพระองค์ จะได้รับรางวัลแห่งการเชื่อวางใจนั้น คือ เราจะได้รับชีวิตนิรันดร์

เทศกาลคริสต์มาสจึงเป็นเทศกาลแห่งการให้ ที่เป็นความสุขของผู้ให้ ทำให้เกิดรอยยิ้มของผู้รับ

เพราะพระเยซูคริสต์สอนเราทั้งหลายใน กิจการ 20:35 ว่า "...การให้เป็นเหตุให้มีความสุขยิ่งกว่าการรับ"

ความรักลบล้างความผิดบาปได้ เมื่อเรากลับมาเชื่อวางใจและรับการอภัยจากพระเจ้าผ่านความเชื่อในพระเยซูคริสต์ พระองค์ก็จะทรงชำระเราให้พ้นจากการอธรรมทั้งสิ้น และกลับมามีความสัมพันธ์สนิทแนบแน่นกับพระองค์ทุกในทุกๆ วัน คริสต์มาสจึงเป็นวันของเราทุกคน เพราะความรักของพระเจ้า และความบาปของเราทุกคนเป็นเหตุให้พระเยซูเสด็จมาในโลกนี้

ในวันนี้จึงอยากเชิญชวนให้เราได้ขอบพระคุณสำหรับความรักของพระเจ้า ซึ่งเป็นความรักอันอัศจรรย์นี้

 

รวบรวมจาก http://pattamarot.blogspot.com/2012/12/blog-post.html

ประจักษ์รักอัศจรรย์วันคริสต์มาส 18 ธันวาคม 2555

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น