วันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2563

การจัดเวลาเพื่อพัก

 

17 กรกฎาคม 2020

การจัดเวลาเพื่อพัก

 

มัทธิว 11:28-30

            บรรดาผู้ทำงานเหน็ดเหนื่อยและแบกภาระหนัก จงมาหาเรา และเราจะให้ท่านทั้งหลาย หายเหนื่อยเป็นสุข

            จงเอาแอกของเราแบกไว้ แล้วเรียนจากเรา เพราะว่าเราสุภาพและใจอ่อนน้อม และจิตใจท่านทั้งหลายจะได้พัก

            ด้วยว่าแอกของเราก็พอเหมาะ และภาระของเราก็เบา

           

หลายครั้งที่เราสะสมความเหนื่อยล้า จนอาจจะไม่อยากทำอะไร ในขณะที่ข้าพเจ้ารู้สึกเช่นนั้น บทใคร่ครวญประจำวันใน  YouVersion Application เรื่องการจัดเวลาเพื่อพัก ก็ขึ้นมาให้ข้าพเจ้าเลือกใช้ในการใคร่ครวญ 5 วัน ที่ผ่านมา เช้านี้ข้าพเจ้าจึงขอนำบทใคร่ครวญนี้มาแบ่งปันสำหรับเป็นข้อคิด หนุนใจ หากท่านใดเคยนำบทใคร่ครวญนี้มาเพื่อเฝ้าเดี่ยวประจำวันแล้ว ก็ขอเป็นการใคร่ครวญร่วมกันอีกสักครั้ง

 

สรุปจากบทใคร่ครวญประจำวัน เรื่อง การจัดเวลาเพื่อพัก ใน YouVersion Application

การพักคืออะไร ?

            ดูเหมือนว่าตารางชีวิตของเราจะมีแต่แน่นขึ้นในแต่ละเดือนที่ผ่านมา เมื่อเราพยายามหาเวลาเจอเพื่อนๆ เราต้องตกใจเมื่อพบว่ากว่าจะว่างอีกทีก็เลยเดือนหน้าไปแล้ว ชีวิตเต็มไปด้วยกิจกรรมของลูกๆ งานของโบสถ์ โปรเจคที่ทำงาน งานวันเกิดคนนั้นคนนี้ และยังมีทริปพักร้อนอีก เราวางโปรแกรมและกำหนดแผนชีวิตทั้งหมดโดยไม่ได้เว้นที่ว่างให้กับอะไรที่จะช่วยฟื้นคืนกำลังหรือหยุดพักเลย

            บ่อยครั้งที่เรามักคิดว่าการพักคือการทำตัวเกียจคร้านหรือการนอนเล่นอยู่บ้านโดยไม่ทำอะไรเลย จริง ๆ แล้วช่วงเวลาพักผ่อนของเราส่วนหนึ่งก็เป็นอย่างนั้น แต่ไม่ใช่ภาพรวมทั้งหมด

 

 

 

1.      การพักคือการฟื้นตัว

            คือการตระหนักรู้ว่าเมื่อไหร่เรากำลังเหือดแห้ง หมดพลัง และต้องการสูดหายใจลึกๆ สักพัก คือการตระหนักถึงข้อจำกัดของตัวเอง และวิธีที่เรารับมือกับภารกิจประจำวันต่าง ๆ ร่างกายของเราจะฟื้นตัวได้อย่างแท้จริงก็ต่อเมื่อเราได้พักผ่อนอย่างสมบูรณ์เพียงพอ ซึ่งหมายถึงการนอนหลับให้สนิทในตอนกลางคืน หากเรารู้สึกอ่อนเพลียอยู่เป็นประจำก็ควรประเมินดูว่านอกจากชั่วโมงการนอนแล้ว เราเลือกนอนในช่วงเวลาที่ถูกต้องด้วยหรือไม่

 

2.      การพักคือการปลุกความสดชื่น

            คือการเรียนรู้ว่าอะไรทำให้เรากระชุ่มกระชวยและอะไรทำให้เราห่อเหี่ยว คือการเลือกทำกิจกรรมที่ปลุกจิตวิญญาณให้สดชื่น ซึ่งอาจเป็นการนิ่งสงบก็ได้เช่นกัน หากเราทำแต่กิจกรรมที่ดูดพลัง ความสดชื่นก็ไม่มีทางกลับมา ทั้งที่จริง ๆ แล้วเราควรมองหาสิ่งที่เติมพลังมากว่า หากเปรียบความสดชื่นเป็นถังหนึ่งใบ ในช่วงเวลาของการพักเราควรเลือกการเติมถังนี้ให้เต็ม มากกว่าการสูบออกจากถังจนหมด

 

3.      การพักคือการสร้างใหม่

คือการรับการเปลี่ยนแปลงใหม่จากเบื้องลึกในทุก ๆ ส่วนของชีวิต คือการใช้เวลากับพระเจ้าเพื่อให้จิตวิญญาณของเราได้รับการสร้างใหม่ อาจมีกิจกรรมที่เราชอบหลายอย่างที่ทำให้จิตใจสดชื่นได้ แต่ท้ายที่สุดเราต้องการสดชื่นในระดับจิตวิญญาณ ซึ่งพบได้จากการใช้เวลากับพระเจ้าในแต่ละวัน

            จากประสบการณ์ของตัวเอง กับคนรอบข้างที่พูดคุยแบ่งปันกัน คือ เหมือนร่างอยากพัก หลังจากพักแล้วจิตใจก็สดชื่น เหมือนได้เติมเต็ม แต่เมื่อกลับมาสู่สภาวะปกติ ความสดชื่นก็หดหายอีก

 

จัดเวลาเพื่อพักอย่างไร

 

1.      ใคร่ครวญ

            การใคร่ครวญพระคำของพระเจ้า ริค วอร์เรน ได้กล่าวไว้ว่า เชื่อไหมครับ ถ้าคุณกังวลเป็น คุณก็จะรู้แล้วว่าจะใคร่ครวญพระคำได้อย่างไร การกังวลคือการจดจ่อไปที่ความคิดลบและนึกถึงมันซ้ำไปซ้ำมา แต่หากคุณเปลี่ยนเป็นจดจ่อที่พระคำพระเจ้าสักตอนหนึ่งและคิดถึงมันซ้ำไปซ้ำมา นั่นแหละคือการใคร่ครวญ

            พระคัมภีร์กล่าวถึงการใคร่ครวญไว้มากกว่า 20 ครั้ง และได้เรียกให้เราใคร่ครวญพระคำของพระเจ้า การฝึกใคร่ครวญพระคำเป็นประจำทุกวันมีประโยชน์อย่างยิ่งเพราะช่วยให้เราได้พักทั้งความคิดและอารมณ์ ความรู้สึก และยังช่วยให้จิตวิญญาณเติบโต

            ในขณะที่เราใช้เวลาอ่านพระคัมภีร์ในแต่ละวัน ให้เรามองให้ลึกเข้าไปในเนื้อหาและสนทนากับพระเจ้าในเรื่องนั้น ๆ เพื่อช่วยให้เราเห็นภาพชัดเจนขึ้น

            ขณะที่เราใคร่ครวญพระคำของพระเจ้า จิตใจของเราจะได้รับการฟื้นฟูและเราจะพบกับการพักสงบที่เราไม่เคยคิดว่าจะเป็นไปได้ ดังเช่นข้อพระคัมภีร์ข้างต้น มัทธิว 11:28-30 บรรดาผู้ทำงานเหน็ดเหนื่อยและแบกภาระหนัก จงมาหาเรา และเราจะให้ท่านทั้งหลาย หายเหนื่อยเป็นสุข จงเอาแอกของเราแบกไว้ แล้วเรียนจากเรา เพราะว่าเราสุภาพและใจอ่อนน้อม และจิตใจท่านทั้งหลายจะได้พัก ด้วยว่าแอกของเราก็พอเหมาะ และภาระของเราก็เบา แต่ละคนอาจได้รับเสียง ความรู้สึกที่เกิดภายในจิตวิญญาณที่ต่างกัน แต่สิ่งที่ได้รับเหมือนกันคือสันติสุข และคำตอบ

 

2.      ฟื้นฟูจิตใจด้วยการจดบันทึก

คุณครุ่นคิดถึงอะไรสิ่งนั้นก็จะเติบโต อย่าจดจ่ออยู่กับสิ่งที่คุณเผชิญอยู่ จงจดจ่อไปที่สิ่งที่คุณกำลังจะทำ - ดร. แคโรไลน์ ลีฟ

            การจดบันทึกประจำวันช่วยให้เราสามารถมองย้อนกลับไปเพื่อดูความก้าวหน้าทางจิตวิญญาณที่เราได้ทำและวิธีการใหม่ๆ ที่พระเจ้าทรงตรัสกับเราในช่วงเวลาที่ผ่านมา ซึ่งการจดบันทึกที่ในบทใคร่ควรญนี้ได้แนะนำคือ ทำแบบง่ายๆ เขียนเพียงสองสามบรรทัดจากความเข้าใจที่เราอ่านพระคัมภีร์ จากความคิด หรือคำอธิษฐานของเรา โดยที่ได้เลือกข้อพระคัมภีร์ อ่านซ้ำ เขียนลงไป ทูลขอความเข้าใจ การเขียนไม่ได้มีผิดมีถูก การเขียนทำให้เราสามารถย้อนกลับไปดูความก้าวหน้าทางด้านจิตวิญญาณของเราได้

            เราจะมองเห็นสิ่งต่าง ๆ อย่างชัดเจน และมีมุมมองใหม่ๆ เกี่ยวกับวิธีที่พระวจนะของพระเจ้าประยุกต์ใช้กับชีวิตของเรา และฟื้นฟูเราจากภายในสู่ภายนอก และเมื่อจิตใจของเราได้รับการฟื้นฟูแล้ว เราจึงได้รับการฟักผ่อนที่ไม่สามารถหาได้จากที่ใด ๆ ทางโลก

 

3.      ตัดขาดจากสิ่งรบกวน

            หนึ่งในคำนิยามของการพักก็คือ การเป็นอิสระจากความกังวลและการรบกวน ชีวิตในโลกทุกวันนี้เต็มไปด้วยสิ่งต่างๆ ที่พร้อมจะรบกวนการพักของเราและทำให้เรากังวล สิ่งเหล่านั้นอาจจะน่าสนุกชั่วครู่ ชั่วคราว และมองเผินๆ ก็เหมือนจะทำให้เราสดชื่นได้ แต่ในท้ายที่สุดเรากลับหมดพลังและไม่ได้พักผ่อนอย่างแท้จริง

            ผู้คนมากมายต่างออกมาพูดถึงวิธีต่าง ๆ ในการปลีกตัวจากโลกที่ทุกสิ่งเชื่อมต่อกันไปหมด มีทั้งหนังสือ บทความ พ็อดแคสท์ Youtube Facebook และข้อเขียนมากมายที่ออกมาบอกถึงขั้นตอนต่าง ๆ ในการเอาชนะบรรดาสิ่งรบกวน แต่ละคนไม่ได้เสียสมาธิ เป็นทุกข์ กังวล เพราะเรื่องเดียวกันทั้งหมด อะไรที่รบกวนคนๆ หนึ่งอาจจะไม่มีผลกระทบอะไรกับอีกคนหนึ่งเลยก็ได้

            หนึ่งในคำนิยามของการพักก็คือ การเป็นอิสระจากการกังวลและการรบกวน ชีวิตในโลกทุกวันนี้เต็มไปด้วยสิ่งต่าง ๆ ที่พร้อมจะรบกวนการพักของเราและทำให้เรากังวล สิ่งเหล่านี้อาจจะน่าสนุกชั่วคราว และมองเผิน ๆ ก็เหมือนจะทำให้เราสดชื่นได้ แต่ในท้ายที่สุดเรากลับหมดพลังและไม่ได้พักผ่อนอย่างแท้จริง

            เราต้องรู้ว่าอะไรคือสิ่งที่รบกวนเรา ไม่ว่าอะไรจะเป็นปัจจัยที่ขโมยสันติสุขและการพักผ่อนไปจากเราก็ตาม เราจำเป็นต้องกำหนดขอบเขต เช่น ไม่จดจ่อกับสิ่งที่ไขว้เขวไปตามความกังวลที่โลกหยิบยื่นให้

 

4.      เติมเต็มเพื่อเทออก

            เหตุผลที่เราจำเป็นต้องพักก็เพราะเราต้องทำงานหรือใช้พลังงานอยู่เสมอ และการที่เราเรียนรู้ที่จะพัก หรือการที่เรารู้สึกว่าได้พัก ก็ไม่ได้แปลว่าเราจะอยู่ในสภาวะนั้นไปได้ตลอด

            ประเด็นสำคัญไม่ใช่การหยุดพักเพียงเพื่อให้ได้พัก แต่การพักเป็นไปเพื่อให้เรากลับไปทำงานต่อได้ การทำงานและการพักผ่อนเป็นเหมือนกระแสน้ำที่ผลัดกันขึ้นลง เป็นภาพของการรับการเติมให้เต็มเพื่อจะมีพอให้เทออก

            การใคร่ครวญพระคำพระเจ้า ตัดขาดสิ่งรบกวนต่าง ๆ หากเราทำสิ่งเหล่านี้ได้ทุกวันเราก็ย่อมได้พัก ร่างกายต้องการนอนหลับให้เพียงพอในแต่ละคืนอย่างไร จิตวิญญาณก็ต้องการพักผ่อนไม่ต่างกัน เราคาดหวังให้จิตวิญญาณเข้มแข็ง สดชื่น โดยไม่ลงทุนอะไรเลยไม่ได้ เราไม่ควรคาดว่าการพักร้อนแค่หนึ่งสัปดาห์จะช่วยเราทำงานไม่หยุดไปได้เป็นเดือนๆ เราต้องเติมถังแห่งการพักเป็นประจำทุกวัน เพื่อจะมีแรงยืนหยัด และเราต้องคอยระวังเมื่อใดที่ถังของเราถูกสูบออกมากจนเกินไป

            ในหนังสือ นำอย่างว่างเปล่า: เติมเต็มถัง คืนพลังให้ฝัน เวย์น คอร์เดย์โร ผู้เขียนและศิษยาภิบาลได้เล่าถึงเรื่องที่เขาเคยฝัน หญิงส่วนคนหนึ่งมาหาชาวสวนที่ฟาร์มและขอซื้อของที่ชาวสวนไม่มีให้ ชาวสวนกล่าวว่า พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่นะครับ เดี๋ยวผมจะมีมากกว่านี้หญิงสาวคนนั้นไม่พอใจ แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร ชาวสวนทำงานของเขาต่อไป ทุก ๆ วันจะมีคนมาหาเขาที่ฟาร์ม และเมื่อใดที่เขาไม่มีไข่หรืนมเหลือ เขาก็จะเพียงบอกคนเหล่านั้นว่า พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่นะครับ เดี๋ยวผมจะมีมากกว่านี้ศิษยาภิบาลคอร์เดย์โรเล่าถึงมุมมองใหม่ที่เขาค้นพบหลังจากความฝันนี้ว่า

            ผมไม่จำเป็นต้องเอาตัวเองไปผูกกับวงจรความคาดหวังที่เกินจริงและใจร้ายใจดำ ที่บอกให้ผมต้องผลิตให้มากขึ้น ทำให้มากขึ้น หรือต้องได้มากกว่าสัปดาห์ก่อน ในหนึ่งวันผมก็มีเวลาอยู่เท่านั้น และผมอยากจะทุ่มเทใจทั้งหมดให้กับสิ่งที่ผมเลือกทำ เมื่อหมดวัน ผมก็จะแค่บอกว่า พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่นะครับ เดี๋ยวผมจะมีมากกว่านี้

            ทุก ๆ เช้า เราตื่นขึ้นพร้อมกับพลังความคิด อารมณ์ และร่างกายในระดับหนึ่ง และเมื่อเราเททุกสิ่งที่เรามีออกไปจนหมด เราก็ต้องพัก ซึ่งการที่เราอยู่ในสภาวะว่างเปล่าเช่นนี้ยังทำให้พระเจ้าทำงานในชีวิตเราได้มากขึ้นอีกด้วย

 

ข้อคิด

          เราคิดว่าชีวิตของเราส่วนไหนต้องการพักมากที่สุด ร่างกาย จิตใจ หรือจิตวิญญาณ? กันแน่

 

โยชูวา 1:8

อย่าให้หนังสือธรรมบัญญัตินี้ห่างเหินไปจากปากของเจ้า แต่เจ้าจงตรึกตรองตามนั้นทั้งกลางวันและกลางคืน เพื่อเจ้าจะได้ระวังที่จะกระทำตามข้อความที่เขียนไว้นั้น ทุกประการ แล้วเจ้าจะมีความจำเริญ และเจ้าจะสำเร็จผลเป็นอย่างดี

 

ขอบคุณบทความดีๆ ที่ได้รวบรวมนำมาแบ่งปัน ขอบคุณพระวจนะจากพระเจ้า ขอบคุณพระเจ้า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น