ปฐมกาล 2:7
พระเจ้าทรงปั้นมนุษย์ด้วยผงคลีดิน
ระบายลมปราณเข้าทางจมูก มนุษย์จึงเป็นผู้มีชีวิต
เยเรมีย์ 18 : 1-12
บทเรียนจากช่างปั้นหม้อ
พระวจนะซึ่งมาจากพระเจ้ายังเยเรมีย์ว่า “จงลุกขึ้น
ไปที่บ้านของช่างหม้อ เราจะให้เจ้าได้ยินถ้อยคำของเราที่นั่น”
ข้าพเจ้าจึงลงไปที่บ้านของช่างหม้อ และเขากำลังทำงานอยู่ที่แป้นเวียน
และภาชนะซึ่งทำด้วยดินก็เสียอยู่ในมือของช่างหม้อ เขาจึงปั้นใหม่ให้เป็นภาชนะอีกลูกหนึ่งตามที่
ช่างหม้อเห็นว่าควรทำ
แล้วพระวจนะของพระเจ้ามายังข้าพเจ้าว่า “ประชาอิสราเอลเอ๋ย
เราจะกระทำแก่เจ้าอย่างที่ช่างหม้อนี้กระทำไม่ได้หรือ พระเจ้าตรัสดังนี้แหละ
ดูเถิด ประชาอิสราเอลเอ๋ย เจ้าอยู่ในมือของเรา อย่างดินเหนียวอยู่ในมือของช่างหม้อ
ถ้าเวลาใดก็ตามเราประกาศ เกี่ยวกับประชาชาติหนึ่งหรือราชอาณาจักรหนึ่งว่า
เราจะถอนและพังและทำลายมันเสีย และถ้าประชาชาตินั้น
ซึ่งเราได้ลั่นวาจาไว้เกี่ยวข้องด้วย หันเสียจากความชั่วของตน
เราก็จักกลับใจจากโทษ ซึ่งเราได้ตั้งใจจะกระทำแก่ชาตินั้นเสีย และถ้าเวลาใดก็ตาม
เราได้ประกาศเกี่ยวกับประชาชาติ หนึ่งหรือราชอาณาจักรหนึ่งว่า
เราจะสร้างขึ้นและปลูกฝังไว้ และชาตินั้นได้กระทำชั่วในสายตาของเรา
ไม่ฟังเสียงของเรา เราก็จะกลับใจจากความดีซึ่งเราตั้งใจ จะกระทำกับชาตินั้นเสีย 11เพราะฉะนั้น
คราวนี้จึงกล่าวกับคนยูดาห์และชาวเมืองเยรูซาเล็มว่า ‘พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า ดูเถิด
เรากำลังก่อสิ่งร้ายไว้สู้เจ้า และคิดแผนงานอย่างหนึ่งไว้สู้เจ้า ทุก ๆ คนจงกลับเสียจากทางชั่วของตน
และจงซ่อมทางและการกระทำของเจ้าทั้งหลายเสีย’ 12“แต่เขาทั้งหลายกล่าวว่า ‘เหลวไหล
เราจะดำเนินตามแผนงานของเราเอง และต่างจะกระทำตามความดื้อดึงแห่งจิตใจชั่วของตนทุกคน’
เยเรมีย์ได้รับคำสั่งจากพระเจ้าให้ไปที่บ้านช่างปั้นหม้อ
เพื่อจะสอนบทเรียนแก่คนยูดา เราจะเห็นว่า การปั้นหม้อของช่างปั้นหม้อนั้น
ช่างปั้นจะใช้ดินเหนียว เวลาที่ช่างปั้นหม้อจะปั้นก็จะมีแบบในใจเสมอก่อนที่จะลงมือปั้น
และมีสิทธิที่จะปั้นตามใจชอบของช่างปั้นหม้อ ในขณะที่ปั้นนั้นหากรูปแบบภาชนะนั้นเสียไป
ช่างปั้นหม้อก็จะมีสิทธิที่จะทิ้ง หรือขึ้นรูปภาชนะใหม่ได้ มีสิทธิที่จะทิ้ง
หรือขึ้นรูปภาชนะใหม่ได้ ซึ่งพระวจนะบอกเราว่ามนุษย์เหมือนดินเหนียวในพระหัตถ์ของพระเจ้า
ชนชาติอิสราเอลก็เป็นดินเหนียวในพระหัตถ์ของพระเจ้าเช่นกัน พระเจ้าปั้นชีวิตของชาวอิสราเอล
หรือชีวิตเรา และได้ตั้งพันธสัญญากับชนชาติอิสราเอลว่า เค้าต้องมีพระเจ้าเป็นหนึ่ง
และต้องเป็นชนชาติของพระเจ้าเท่านั้น แต่ชนชาติอิสราเอลปฏิเสธพระเจ้า
เค้าเป็นเหมือนดินเหนียวที่ไม่ยอมให้พระเจ้าปั้น เมื่อไม่ยอมให้พระเจ้าปั้นมันจึงเสียไป
เยเรมีย์ได้บอกกับชนชาติอิสราเอลว่า เมื่อเขาไม่ยอมให้พระเจ้าปั้น
พระเจ้ามีสิทธิปั้นภาชนะใบใหม่ คือการเลือกชนชาติอื่น
พระเจ้าให้โอกาสคนอิสราเอลกลับใจใหม่หลายครั้ง และหากเค้ากลับมาหาพระเจ้าและให้พระเจ้าเป็นหนึ่ง
พระเจ้าก็จะยกโทษให้ จากในข้อ 11 11เพราะฉะนั้น
คราวนี้จึงกล่าวกับคนยูดาห์และชาวเมืองเยรูซาเล็มว่า ‘พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า ดูเถิด
เรากำลังก่อสิ่งร้ายไว้สู้เจ้า และคิดแผนงานอย่างหนึ่งไว้สู้เจ้า ทุก ๆ คนจงกลับเสียจากทางชั่วของตน
และจงซ่อมทางและการกระทำของเจ้าทั้งหลายเสีย’ แต่คนยูดาห์ไม่ยอมกลับใจใหม่
ดังที่เค้าได้ตอบในข้อ 1212“แต่เขาทั้งหลายกล่าวว่า
‘เหลวไหล เราจะดำเนินตามแผนงานของเราเอง
และต่างจะกระทำตามความดื้อดึงแห่งจิตใจชั่วของตนทุกคน’ เมื่อพระเจ้าให้โอกาสแต่เค้าปฏิเสธโอกาสนั้นก็หมดลง
ท้ายที่สุดชนชาติก็แตกสลาย
ในหลายครั้งเราก็เหมือนกับชนชาติอิสราเอล
ที่ไม่ยอมให้ผู้ปั้นปั้นชีวิตเรา เราพยายามพึ่งพาตัวเอง
และคิดว่าจะปั้นแต่งตัวเองขึ้นมาได้ แต่ความจริงแล้ว
เราเป็นดินเหนียวในพระหัตถ์ของพระเจ้า
เราต้องยอมให้ผู้ปั้นเป็นผู้ปั้นแต่งชีวิตเรา เราจะกลายเป็นภาชนะที่สวยงาม
แต่มันก็ไม่ง่ายเลยเพราะกว่าจะเป็นภาชนะที่สวยงาม เราต้องถูกปั้น ถูกเจียร์
ยิ่งหากผู้ปั้นต้องการลวดลายที่สวยงาม ก็จะยิ่งใช้แรงบีบอัด และใช้สันแข็งๆ
มาทำเป็นลวดลาย หากดินนั้นแข็งก็จะยิ่งปั้นยาก
คือหากเราเป็นดินที่แข็งผู้ปั้นก็ต้องใช้ความพยายามมากขึ้น
(ดินที่แข็งเกิดด้วยสาเหตุหลายๆ อย่าง เช่น ชนิดของดิน
หรือไม่ยอมให้ช่างปั้นปั้นแต่โดยดีใช้เวลานานจนดินแข็ง)
ในฐานะที่เราเป็นดินเหนียวในพระหัตถ์ของพระเจ้า เราต้องยอมจำนน
ให้พระเจ้าเป็นหนึ่ง เชื่อและวางใจว่าพระเจ้าเป็นช่างปั้นที่วิเศษที่สุด
เป็นผู้ที่จะปั้นชีวิตเราให้สวยงามและใช้การได้ ขอเรายอมจำนน เชื่อและวางใจ
และต้องรู้ว่า เราไม่สามารถที่จะพึ่งพาตัวเองได้แม้การต้องยอมจำนน
เราก็ต้องอธิษฐานขอจากพระเจ้าให้เรามีใจถ่อม ยอมจำนน บางครั้งพระเจ้าอาจกำลังเจียระไนชีวิตเรา
ซึ่งหลายครั้งอาจเกิดความเจ็บปวดจากแรงกด แรงบีบอัด
อาจมีหินติดเข้ามาในดินเหนียวที่กำลังขึ้นรูปอย่างสวยงาม ก็เกิดเสียรูปไป
ผู้ปั้นต้องหยิบหรือแกะหินนั้นออก ภาชนะที่กำลังจะสวยก็เสียไป
ต้องผสมดินและปั้นกันใหม่ จึงทำให้ระยะเวลานั้นแสนยาวนาน
ทำให้เราหลงทางและหันกลับไปพึ่งพาตนเองหรือสิ่งอื่น (หินที่ติดมาในดินเหนียวเปรียบเสมือนหินที่เราสะดุดได้ในแต่ละวัน
จากหลายสิ่งหลายอย่างรอบตัวซึ่งเราต้องเอาออกอย่าปล่อยเอาไว้จนเหยียบแล้วเจ็บ
หรือสะดุดอยู่ตลอดเวลา)
แต่ขอให้เราเชื่อและวางใจผู้ปั้นที่วิเศษผู้นี้
ยอมจำนนให้ผู้ปั้นปั้นเราตามที่ชอบพอพระทัย
เป็นภาชนะที่สวยงามและใช้การได้เร็ววันขึ้น
โดยพระคุณพระเจ้านั้น พระองค์ไม่เคยล้มเลิกที่จะสร้างเราต่อจนกว่าจะได้แบบที่พระองค์พอพระทัย
ถึงแม้ว่าเราจะดื้อดึง
ขอเรายอมให้พระองค์ปั้นเราให้เป็นภาชนะที่ทั้งสวยงาม
และใช้การได้
ข้อคิด : เราอยากเป็นภาชนะที่ทั้งสวยงาม
และใช้การได้หรือไม่ ? 19/8/63
ขอบคุณบทความดีๆ ที่ได้รวบรวมนำมาแบ่งปัน ขอบคุณพระวจนะจากพระเจ้า ขอบคุณพระเจ้า