วันอังคารที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

ความเก่ง



1 ซามูเอล 16 : 7

            แต่พระเจ้าตรัสกับซามูเอลว่า อย่ามองดูที่รูปร่างภายนอกหรือที่ความสูงแห่งร่างกาย ของเขา ด้วยเราไม่ยอมรับเขา เพราะพระเจ้าทอดพระเนตรไม่เหมือนกับที่มนุษย์ดู มนุษย์ดูที่รูปร่างภายนอกแต่ะพระเจ้าทอดพระเนตรจิตใจ

               ความเก่ง ความร่ำรวยเงินทอง ทรัพย์สิน เป็นสิ่งที่ท้าทายให้คนเรารู้สึกเหนือกว่าผู้อื่น
            ได้ข้อคิดจากอาจารย์มิว ในวันที่ผ่านมาพูดถึง เมื่อคนเราถึงจุดที่สูงสุด ก็อาจถูกทดลองได้ หรืออยู่จุดที่ต่ำสุด ก็ถูกการทดลองได้ง่ายๆ เช่นกัน


แบ่งปันในวันนี้ นำมาจากหนังสือ สุดหัวใจ แด่องค์พระผู้เป็นเจ้าสูงสุด (P.252-253)

ลูกา 18:31
พระองค์จึงทรงพาสาวกสิบสองคนไปแล้วตรัสกับเขาว่า ดูเถิด เราทั้งหลายจะขึ้นไปยังกรุงเยรูซาเล็มและจะสำเร็จตามสิ่งสารพัด ซึ่งเหล่าผู้เผยพระวจนะได้เขียนไว้ว่าด้วยบุตรมนุษย์

            ความกล้าหาญของพระเจ้าที่กล้าวางพระทัยเราทั้งหลายนั้นช่างน่าประทับใจจริงๆ บางทีเราอาจตอบว่า แต่พระเจ้าไม่น่าจะเลือกฉันเลย เพราะไม่มีอะไรดีในตัวฉัน ฉันเป็นคนไร้ค่าแต่นั่นแหละคือเหตุผลที่พระองค์ได้ทรงเลือกสรรเราไว้ ตราบใดที่เราคิดว่ามีส่วนดีบางอย่างในตัวเรา พระองค์ก็จะเลือกเราไม่ได้ เนื่องจากเรายังเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว แต่ถ้าเรายอมให้พระองค์นำเราไปถึงจุดสูงสุดในความเพียงพอในตนเองแล้ว พระองค์ก็สามารถเลือกเราเพื่อพาไปยังกรุงเยรูซาเล็มด้วยกันได้ ซึ่งนั่นจะลงเอยด้วยการกระทำให้พระประสงค์บางประการสำเร็จ แต่พระองค์จะไม่ปรึกษากับเราเกี่ยวกับเรื่องจุดประสงค์เหล่านั้น
            เรามักจะพูดว่าเนื่องจากบุคคลผู้หนึ่งผู้ใดมีความสามารถโดยธรรมชาติ ดังนั้น เขาจึงเป็นคริสเตียนที่เป็นตัวอย่างได้ แต่เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เรามีอยู่ ทว่าเกี่ยวกับความขัดสนของเราต่างหาก ไม่ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เรานำติดตัวมา แต่เกี่ยวกับสิ่งที่พระเจ้าทรงใส่ไว้ภายในเรา ปัญหาไม่เกียวกับคุณสมบัติที่ได้รับโดยธรรมชาติ บุคลิกลักษณะที่หนักแน่นมั่นคง ความรอบรู้ หรือประสบการณ์ต่างๆ ทั้งหมดนี้ไม่เป็นประโยชน์อะไรในเรื่องนี้ สิ่งเดียวเท่านั้นที่เป็นประโยชน์คือ ที่พระเจ้าจะทรงนำเราให้มีส่วนในพระประสงค์อันเหลือจะขัดขืนได้ของพระองค์ และให้เรามีฐานะเป็นมิตรสหายของพระองค์

 1 โครินธ์ 1:26-30
            ดูก่อนพี่น้องทั้งหลาย จงพิจารณาดูว่า พวกท่านที่พระเจ้าได้ทรงเรียกมานั้นเป็นคนพวกไหน มีน้อยคนที่โลกนิยมว่ามีปัญญา มีน้อยคนที่มีอำนาจ มีน้อยคนที่มีตระกูลสูง แต่พระเจ้าได้ทรงเลือกคนที่โลกถือว่าโง่เขลา เพื่อทำให้คนมีปัญญาอับอาย และได้ทรงเลือกคนที่โลกถือว่าอ่อนแอ เพื่อทำให้คนที่แข็งแรงอับอาย พระเจ้าได้ทรงเลือกสิ่งที่โลกถือว่าต่ำต้อยและดูหมิ่น และเห็นว่าไร้สาระ เพื่อทำลายสิ่งซึ่งโลกเห็นว่าสำคัญ เพื่อมิให้มนุษย์สักคนหนึ่งอวดต่อพระเจ้าได้ โดยพระองค์ ท่านจึงอยู่ในพระเยซูคริสต์ เพราะพระเจ้าทรงตั้งพระองค์ให้เป็นปัญญาและความชอบธรรมของเรา และเป็นผู้ทรงชำระเราให้บริสุทธิ์ และทรงเป็นผู้ไถ่เราไว้ให้พ้นบาป เพื่อให้เป็นไปตามพระคัมภีร์ที่เขียนว่า ให้ผู้โอ้อวด อวดองค์พระผู้เป็นเจ้า

            พระเจ้าทรงผูกมิตรกับคนที่รู้ว่าตนเองขาดตกบกพร่อง พระองค์ทำอะไรไม่ได้กับผู้ที่ถือว่าตนเองมีประโยชน์สำหรับพระเจ้า ในฐานะที่เป็นคริสตชน เรามิได้มุ่งทำให้ความทะเยอทะยานส่วนตัวของเราสำเร็จ เพราะเราอยู่เพื่อประโยชน์ของพระเจ้าแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งไม่เหมือนจุดมุ่งหมายของเราเองเลย เราทั้งหลายไม่รู้ว่าพระเข้าทรงมุ่งจะทำอะไร แต่ในส่วนของเรา เราจำเป็นต้องรักษาความสัมพันธ์สินทกับพระองค์ไว้ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นก็ตาม ในทำนองเดียวกัน เราต้องไม่ยอมให้มีอะไรเข้ามาแทรกแซง รบกวน เราจำเป็นต้องให้เวลาเพื่อแก้ไขจนถูกต้องดังเดิม ข้อใหญ่ใจความของคริสเตียนไม่ใช่การงานที่เรารับใช้ แต่เป็นความสัมพันธ์ที่เรารักษาไว้ต่างหาก รวมทั้งผลที่เกิดขึ้นเนื่องจากความผูกพันกับพระเจ้า พระองค์ทรงใช้เราทั้งหลายเอาใจใส่ดูแลรักษาเรื่องนั้นเรื่องเดียว และเรื่องเดียวกันนี้แหละที่เป็นสิ่งที่ถูกโจมตีอย่างต่อเนื่อง

2 โครินธ์ 4:7-10
            แต่ว่าเรามีของมีค่านี้อยู่ในภาชนะดิน  เพื่อให้เห็นว่า ฤทธิ์เดชอันเลิศนั้นเป็นของพระเจ้า ไม่ได้มาจากตัวเราเอง เราถูกขนาบรอบข้าง แต่ก็ไม่ถึงกับกระดิกไม่ไหว เราจนปัญญาแต่ก็ไม่ถึงกับหมดมานะ เราถูกข่มเหงแต่ก็ไม่ถูกทอดทิ้ง เราถูกตีลงแล้ว แต่ก็ไม่ถึงตาย เราแบกความตายของพระเยซูไว้ที่กายเราเสมอ เพื่อว่าชีวิตของพระเยซูจะปรากฏในกายของเราด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น