17 มกราคม
2024
การอธิษฐาน
พี่น้องอธิษฐานกันตอนไหนบ้าง
บ่อยแค่ไหน หรือเฉพาะที่ต้องการขออะไรบางอย่างจากพระเจ้า ข้าพเจ้าเป็นคนหนึ่งที่พูดเสมอว่าอธิษฐานไม่เป็น
ไม่รู้จะพูดอย่างไร และบางครั้งก็รู้สึกว่าไม่กล้าขออะไร กลัวว่าหากได้ตามที่ขอขึ้นมาแล้วจะตกใจรึเปล่า
พี่น้องเคยเป็นบ้างไหม ประสบการณ์ในการคิดเช่นนี้เกิดจาก บางครั้งหนักใจอะไรเล็กๆน้อยๆ
หรืออยากได้อะไร ยังไม่ได้อธิษฐานขอเลย อยู่ในใจก็ได้คำตอบแล้วแม้เรื่องนั้นเราคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยมากๆ
แต่พระเจ้ามองลูกของพระองค์ว่าสำคัญต่างหาก
ความจริงหากเรามองย้อนกลับไป
เราจะรู้ว่าพระเจ้าประทานสิ่งที่ดี เหมาะสมและจำเป็นสำหรับตัวเรามากมาย
หากเราไม่โลภที่ต้องการสิ่งที่เกินตัว สิ่งที่เป็นแบบคนอื่น ข้าพเจ้ามักจะแบ่งปันกับน้องๆ
เสมอว่า เมื่ออายุมากขึ้น เราจะรู้ว่าอะไรไม่สำคัญเท่าชีวิต ไม่ต้องคาดหวังกับใครๆ
เพราะอาจผิดหวัง ไม่ต้องสนใจสิ่งที่ไม่จำเป็นสำหรับเรา ขอเราดูแลตัวเอง ดูแลสุขภาพ
และมองย้อนกลับไปในอดีตที่ผ่านมา เราจะเห็นพระคุณพระเจ้าที่ประทานให้เรามากมาย
วันนี้ข้าพเจ้าจะขอแบ่งปันโดยตั้งชื่อหัวข้อว่า
การอธิษฐาน ซึ่งได้ศึกษาความรู้จากอาจารย์ท่านต่างๆ เพื่อนำมาปฏิบัติ
และอยากนำมาแบ่งปันเพื่อหนุนใจกันและกัน
การอธิษฐานจากการเรียนรู้จากพระเยซู
พระเยซูเป็นแบบอย่างในการอธิษฐานแก่เราอย่างมาก
เราพบว่าหลายครั้งในพระคัมภีร์พระเยซูอธิษฐานช่วงเช้า และหลายครั้งอธิษฐานหลังจากจบภารกิจในการรับใช้
การอธิษฐานจึงเป็นสิ่งที่ผู้เชื่อขาดไม่ได้
การอธิษฐานเปรียบเสมือนลมหายใจเลยก็ว่าได้
เพราะการอธิษฐานเป็นการพูดคุยติดต่อกับพระเจ้าของเรา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเราต้อนรับพระเยซูคริสต์เข้ามาในชีวิตของเรา
เราสามารถสัมพันธ์สนิทกับพระเจ้าได้ในฐานะบุตรของพระองค์ ซึ่งผู้ที่แสวงหาพระองค์เขาจะพบพระองค์
และชีวิตของเขาจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
การอธิษฐานทำได้ทั้งในชีวิตประจำวันและโอกาสพิเศษ
เราอาจจะมีบางเรื่องที่หนักใจอยากทูลต่อพระเจ้าเป็นพิเศษ หรือเราอาจไม่มีอะไรเป็นพิเศษแต่อธิษฐานเพื่อให้เกิดความสัมพันธ์สนิทกับพระองค์
ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับการพัฒนาชีวิตของผู้เชื่อ เมื่อพระเยซูทรงสอนสาวกให้อธิษฐาน
ตัวอย่างจาก ลูกา 11:5-10
เป็นการรบเร้าขอขนมปังจากเพื่อนของตนยามดึก
ลูกา
11:5-10
[5]
พระองค์ตรัสแก่เขาว่า <<ผู้ใดในพวกท่านมีมิตรสหายคนหนึ่ง
และจะไปหามิตรสหายนั้นในเวลาเที่ยงคืนพูดกับเขาว่า <เพื่อนเอ๋ย
ขอให้ฉันยืมขนมปังสักสามก้อนเถิด [6] เพราะเพื่อนของฉันคนหนึ่งเพิ่งเดินทางมาหาฉัน
และฉันไม่มีอะไรจะให้เขารับประทาน> [7] ฝ่ายมิตรสหายที่อยู่ข้างในจะตอบว่า <อย่ารบกวนฉันเลย
ประตูก็ปิดเสียแล้ว ทั้งพวกลูกก็นอนร่วมเตียงเดียวกับฉันแล้ว
ฉันจะลุกขึ้นหยิบให้ท่านไม่ได้> [8] เราบอกท่านทั้งหลายว่า
แม้เขาจะไม่ลุกขึ้นหยิบให้คนนั้นเพราะเป็นมิตรสหายกัน แต่ว่าเพราะวิงวอนมากเข้า
เขาจึงจะลุกขึ้นหยิบให้ตามที่เขาต้องการ [9] เราบอกท่านทั้งหลายว่า จงขอแล้วจะได้
จงหาแล้วจะพบ จงเคาะแล้วจะเปิดให้แก่ท่าน [10] เพราะว่าทุกคนที่ขอก็ได้
ทุกคนที่แสวงหาก็พบ และทุกคนที่เคาะก็จะเปิดให้เขา
การอธิษฐานเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับพระเจ้าและเป็นประโยชน์กับเราอย่างไรบ้าง
1.
ทำให้เราเรียนรู้ที่จะพึ่งพาพระเจ้าในการดำเนินชีวิตเสมอ
ในการดำเนินชีวิตในแต่ละวันของเรา
มีความไม่แน่นอนหลายอย่างที่เราอาจจะคาดไม่ถึง การพึ่งพาพระเจ้าจึงเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในการดำเนินชีวิตของเรา
มัทธิว
26:41 “ท่านทั้งหลายจงเฝ้าระวังและอธิษฐานเพื่อจะไม่ถูกทดลอง
จิตวิญญาณพร้อมแล้วก็จริง แต่กายยังอ่อนกำลัง”
2.
ทำให้เราเรียนรู้ในการปรับเปลี่ยนความคิดของเรา
หลายครั้งเราอธิษฐานขอแล้วไม่ได้
ทำให้เราต้องทบทวนดูในหลายๆ สิ่ง เช่น ท่าทีในการขอของเรา
ขอในสิ่งที่ถูกต้องหรือไม่ หรือยังไม่ถึงเวลาที่เหมาะสม
ยากอบ
4:3 “พวกท่านขอและไม่ได้รับเพราะขอผิด หวังจะเอาไปสนองความปรารถนาชั่วของตนเอง”
พระเจ้าสนใจในชีวิตของเรามากกว่าการพยายามทำอะไรบางอย่างเพื่อพระเจ้า
มาระโก 11:25 “และเมื่อพวกท่านยืนอธิษฐานอยู่ ถ้าพวกท่านมีเรื่องกับใคร จงยกโทษให้คนนั้น เพื่อว่าพระบิดาของพวกท่านผู้สถิตในสวรรค์ จะทรงยกโทษความผิดของพวกท่านด้วย”
3. ทำให้เราสงบลงต่อพระประสงค์ของพระเจ้า
แม้แต่พระเยซู
ในคืนก่อนที่พระองค์จะไปที่กางเขน ทรงมีความทุกข์ใจอย่างหนัก และพระองค์ทรงอธิษฐาน
สุดท้ายการอธิษฐานของพระองค์ทำให้พระองค์ตัดสินใจรับน้ำพระทัยพระเจ้า
และทรงมีท่าทีสงบอย่างเห็นได้ชัดตลอดการทนทุกข์ทรมานจนถึงทรงสิ้นพระชนม์บนกางเขน
มัทธิว
26:42
พระองค์จึงเสด็จไปทรงอธิษฐานอีกเป็นครั้งที่สอง
“ข้าแต่พระบิดาของข้าพระองค์ ถ้าถ้วยนี้เลื่อนพ้นไปจากข้าพระองค์ไม่ได้
และข้าพระองค์จำต้องดื่มแล้ว ก็ให้เป็นไปตามพระทัยของพระองค์”
แผนการและน้ำพระทัยของพระเจ้า
เป็นเรื่องลึกซึ้งสำหรับเรา
พระเจ้าทรงทราบว่าอะไรเหมาะสมที่สุดสำหรับเราทั้งเรื่องอะไรและเวลาไหนที่เหมาะสมที่สุด
การอธิษฐานทำให้เกิดการสงบลงต่อพระประสงค์ของพระเจ้า
และไว้วางใจในพระเจ้าในหลายสิ่งที่เราไม่เข้าใจเหล่านั้นด้วย
4.
ทำให้เรามีความยินดีเต็มเปี่ยมเมื่อเราอธิษฐานตามน้ำพระทัยพระเจ้า
จริงแล้วพระเจ้าทรงทราบดีว่าเราต้องการสิ่งใด
แต่พระองค์ก็ต้องการให้เราทูลขอต่อพระองค์ ต้องการให้เราพบพระองค์
ติดสนิทกับพระองค์ พึ่งพาพระองค์
ยอห์น
16:24 “จนบัดนี้พวกท่านก็ยังไม่ได้ขอสิ่งใดในนามของเรา จงขอเถิดแล้วจะได้
เพื่อความชื่นชมยินดีของท่านจะมีเต็มเปี่ยม”
ทั้ง
4 ข้อนี้จะช่วยให้เกิดการพัฒนาความสัมพันธ์กับพระเจ้าในทางที่เติบโตขึ้นฝ่ายจิตวิญญาณในการเป็นผู้เชื่อที่เข้มแข็ง
ไม่ใช่มองเพียงแค่ขอและได้หรือไม่ได้รับเท่านั้น
แต่เป็นการปรับความคิดและนำชีวิตของเราเข้าไปสู่แผนการพระประสงค์ของพระเจ้า
เพื่อดำเนินชีวิตไปในทางของพระองค์
การอธิษฐานในชีวิตประจำวันมีอะไรบ้าง
1.
อธิษฐานสรรเสริญและขอบคุณพระเจ้า
เอเฟซัส
5:20
“จงขอบพระคุณพระเจ้าคือพระบิดาอยู่เสมอสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง
ในพระนามของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา”
ให้เราอธิษฐานสรรเสริญและขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับสิ่งที่พระเจ้าประทานในชีวิตในเรื่องต่างๆ เราสามารถขอบคุณพระเจ้าได้เสมอ ในทุกกรณีของชีวิต ทั้งเรื่องที่ดีและบทเรียนจากสถานการณ์บางอย่างที่พระเจ้าให้มาเพื่อพัฒนาชีวิตเรา บางครั้งอาจเจ็บปวด แต่สิ่งที่ได้มาภายหลังนั้นมีแต่ความชื่นชมยินดี
2. อธิษฐานสารภาพบาป
1
ยอห์น 1:9 “ถ้าเราสารภาพบาปของเรา พระองค์ทรงซื่อสัตย์และเที่ยงธรรม
ก็จะทรงโปรดยกบาปของเรา และจะทรงชำระเราให้พ้นจากการอธรรมทั้งสิ้น”
เป็นโอกาสที่เราจะเข้ามาสารภาพบาปที่เราอาจจะทำผิดไปในแต่ละวัน
เป็นการทบทวนและพัฒนาชีวิตของเราเพื่อเราจะได้พ้นจากการถูกมารทดลอง
ล่อลวงให้หลงผิดอีก
3.
อธิษฐานเผื่อพี่น้อง
2
เธสะโลนิกา 1:11 “เพราะเหตุนี้ เราจึงอธิษฐานเพื่อพวกท่านเสมอ
ขอพระเจ้าของเราทรงให้ท่านเป็นผู้ที่สมควรแก่การทรงเรียกนั้น
และขอพระองค์ทรงให้ความตั้งใจดีทุกประการ และกิจการแห่งความเชื่อทุกอย่างสำเร็จด้วยฤทธิ์เดชของพระองค์”
เราอาจใช้เวลาอธิษฐานเผื่อพี่เลี้ยงของเรา
กลุ่มเซล คริสตจักรของเรา ที่ทำงานของเรา เพื่อนร่วมงาน หรืองานรับใช้พระเจ้าในคริสตจักร
อธิษฐานเผื่อพี่น้องที่กำลังอยู่ในความทุกข์ยาก ความเจ็บป่วยร่างกาย หรือจิตใจ
เพื่อขอพระเจ้าเมตตาเพื่อให้เราผ่านสิ่งต่างๆ
เหล่านั้นไปได้โดยพระกรุณาคุณจากพระเจ้า
4.
อธิษฐานขอในเรื่องส่วนตัวและฟังพระสุรเสียงจากพระเจ้า
เป็นสิ่งที่ดีหากเราได้คำตอบจากคำอธิษฐานในเรื่องส่วนตัว
ทำให้เรามั่นใจในประสบการณ์ดีๆ กับพระเจ้า เราต้องฝากความหวังใจไว้ในพระเจ้า
ไว้วางใจในพระองค์ พระเจ้าอาจจะตอบ หรือให้เรารอ หรือไม่ตอบก็ได้
เพราะพระองค์ทรงทราบสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเราเสมอ
การอธิษฐานเป็นการพักสงบฟังเสียงของพระเจ้า
รวมทั้งขอบคุณพระเจ้าสำหรับอาหารที่พระเจ้าประทานให้เราในทุกๆ
มื้อ เพื่อเป็นการระลึกถึงความรักเมตตาและการเลี้ยงดูของพระเจ้าในชีวิต และเลือกเวลาที่สงบเพื่ออธิษฐานก่อนนอนขอบคุณพระเจ้าสำหรับตลอดทั้งวันที่พระองค์ทรงดูแลชีวิตเราเสมอ
การอธิษฐานทำได้ทั้งชีวิตประจำวันและโอกาสพิเศษ
เราอาจจะมีบางเรื่องที่หนักใจอยากทูลต่อพระเจ้าเป็นพิเศษ หรือเราอาจไม่มีอะไรเป็นพิเศษแต่อธิษฐานเพื่อให้เกิดความสัมพันธ์สนิทกับพระองค์
ซึ่งนั่นเป็นสิ่งดีที่สุดสำหรับการพัฒนาชีวิตของผู้เชื่อทุกคน
ข้าพเจ้าใคร่ครวญสิ่งต่างๆ
เหล่านี้ ทำให้ข้าพเจ้ากลับมาอธิษฐานก่อนนอนมากขึ้น แทนที่จะเฉพาะช่วงเช้าที่ต้องเร่งรีบมาทำงาน
ทำให้ข้าพเจ้าได้ใช้เวลาในการอธิษฐานเผื่อพี่น้องมากขึ้นด้วยเช่นกัน
ขอบคุณบทความจาก
https://actsofchrist.org/basicchristian-unit6-pray/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น