วันพฤหัสบดีที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2568

การอธิษฐาน

 

17 มกราคม 2024

การอธิษฐาน

 

พี่น้องอธิษฐานกันตอนไหนบ้าง บ่อยแค่ไหน หรือเฉพาะที่ต้องการขออะไรบางอย่างจากพระเจ้า ข้าพเจ้าเป็นคนหนึ่งที่พูดเสมอว่าอธิษฐานไม่เป็น ไม่รู้จะพูดอย่างไร และบางครั้งก็รู้สึกว่าไม่กล้าขออะไร กลัวว่าหากได้ตามที่ขอขึ้นมาแล้วจะตกใจรึเปล่า พี่น้องเคยเป็นบ้างไหม ประสบการณ์ในการคิดเช่นนี้เกิดจาก บางครั้งหนักใจอะไรเล็กๆน้อยๆ หรืออยากได้อะไร ยังไม่ได้อธิษฐานขอเลย อยู่ในใจก็ได้คำตอบแล้วแม้เรื่องนั้นเราคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยมากๆ แต่พระเจ้ามองลูกของพระองค์ว่าสำคัญต่างหาก

ความจริงหากเรามองย้อนกลับไป เราจะรู้ว่าพระเจ้าประทานสิ่งที่ดี เหมาะสมและจำเป็นสำหรับตัวเรามากมาย หากเราไม่โลภที่ต้องการสิ่งที่เกินตัว สิ่งที่เป็นแบบคนอื่น ข้าพเจ้ามักจะแบ่งปันกับน้องๆ เสมอว่า เมื่ออายุมากขึ้น เราจะรู้ว่าอะไรไม่สำคัญเท่าชีวิต ไม่ต้องคาดหวังกับใครๆ เพราะอาจผิดหวัง ไม่ต้องสนใจสิ่งที่ไม่จำเป็นสำหรับเรา ขอเราดูแลตัวเอง ดูแลสุขภาพ และมองย้อนกลับไปในอดีตที่ผ่านมา เราจะเห็นพระคุณพระเจ้าที่ประทานให้เรามากมาย

วันนี้ข้าพเจ้าจะขอแบ่งปันโดยตั้งชื่อหัวข้อว่า การอธิษฐาน ซึ่งได้ศึกษาความรู้จากอาจารย์ท่านต่างๆ เพื่อนำมาปฏิบัติ และอยากนำมาแบ่งปันเพื่อหนุนใจกันและกัน

 

การอธิษฐานจากการเรียนรู้จากพระเยซู

พระเยซูเป็นแบบอย่างในการอธิษฐานแก่เราอย่างมาก เราพบว่าหลายครั้งในพระคัมภีร์พระเยซูอธิษฐานช่วงเช้า และหลายครั้งอธิษฐานหลังจากจบภารกิจในการรับใช้

การอธิษฐานจึงเป็นสิ่งที่ผู้เชื่อขาดไม่ได้ การอธิษฐานเปรียบเสมือนลมหายใจเลยก็ว่าได้ เพราะการอธิษฐานเป็นการพูดคุยติดต่อกับพระเจ้าของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเราต้อนรับพระเยซูคริสต์เข้ามาในชีวิตของเรา เราสามารถสัมพันธ์สนิทกับพระเจ้าได้ในฐานะบุตรของพระองค์ ซึ่งผู้ที่แสวงหาพระองค์เขาจะพบพระองค์ และชีวิตของเขาจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

การอธิษฐานทำได้ทั้งในชีวิตประจำวันและโอกาสพิเศษ เราอาจจะมีบางเรื่องที่หนักใจอยากทูลต่อพระเจ้าเป็นพิเศษ หรือเราอาจไม่มีอะไรเป็นพิเศษแต่อธิษฐานเพื่อให้เกิดความสัมพันธ์สนิทกับพระองค์ ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับการพัฒนาชีวิตของผู้เชื่อ เมื่อพระเยซูทรงสอนสาวกให้อธิษฐาน ตัวอย่างจาก ลูกา 11:5-10 เป็นการรบเร้าขอขนมปังจากเพื่อนของตนยามดึก

 

ลูกา 11:5-10

[5] พระองค์ตรัสแก่เขาว่า <<ผู้ใดในพวกท่านมีมิตรสหายคนหนึ่ง และจะไปหามิตรสหายนั้นในเวลาเที่ยงคืนพูดกับเขาว่า <เพื่อนเอ๋ย ขอให้ฉันยืมขนมปังสักสามก้อนเถิด [6] เพราะเพื่อนของฉันคนหนึ่งเพิ่งเดินทางมาหาฉัน และฉันไม่มีอะไรจะให้เขารับประทาน> [7] ฝ่ายมิตรสหายที่อยู่ข้างในจะตอบว่า <อย่ารบกวนฉันเลย ประตูก็ปิดเสียแล้ว ทั้งพวกลูกก็นอนร่วมเตียงเดียวกับฉันแล้ว ฉันจะลุกขึ้นหยิบให้ท่านไม่ได้> [8] เราบอกท่านทั้งหลายว่า แม้เขาจะไม่ลุกขึ้นหยิบให้คนนั้นเพราะเป็นมิตรสหายกัน แต่ว่าเพราะวิงวอนมากเข้า เขาจึงจะลุกขึ้นหยิบให้ตามที่เขาต้องการ [9] เราบอกท่านทั้งหลายว่า จงขอแล้วจะได้ จงหาแล้วจะพบ จงเคาะแล้วจะเปิดให้แก่ท่าน [10] เพราะว่าทุกคนที่ขอก็ได้ ทุกคนที่แสวงหาก็พบ และทุกคนที่เคาะก็จะเปิดให้เขา

 

การอธิษฐานเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับพระเจ้าและเป็นประโยชน์กับเราอย่างไรบ้าง

        1.    ทำให้เราเรียนรู้ที่จะพึ่งพาพระเจ้าในการดำเนินชีวิตเสมอ

ในการดำเนินชีวิตในแต่ละวันของเรา มีความไม่แน่นอนหลายอย่างที่เราอาจจะคาดไม่ถึง การพึ่งพาพระเจ้าจึงเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในการดำเนินชีวิตของเรา

มัทธิว 26:41 ท่านทั้งหลายจงเฝ้าระวังและอธิษฐานเพื่อจะไม่ถูกทดลอง จิตวิญญาณพร้อมแล้วก็จริง แต่กายยังอ่อนกำลัง

        2.    ทำให้เราเรียนรู้ในการปรับเปลี่ยนความคิดของเรา

หลายครั้งเราอธิษฐานขอแล้วไม่ได้ ทำให้เราต้องทบทวนดูในหลายๆ สิ่ง เช่น ท่าทีในการขอของเรา ขอในสิ่งที่ถูกต้องหรือไม่ หรือยังไม่ถึงเวลาที่เหมาะสม

ยากอบ 4:3 พวกท่านขอและไม่ได้รับเพราะขอผิด หวังจะเอาไปสนองความปรารถนาชั่วของตนเอง

พระเจ้าสนใจในชีวิตของเรามากกว่าการพยายามทำอะไรบางอย่างเพื่อพระเจ้า

มาระโก 11:25 และเมื่อพวกท่านยืนอธิษฐานอยู่ ถ้าพวกท่านมีเรื่องกับใคร จงยกโทษให้คนนั้น เพื่อว่าพระบิดาของพวกท่านผู้สถิตในสวรรค์ จะทรงยกโทษความผิดของพวกท่านด้วย

3.    ทำให้เราสงบลงต่อพระประสงค์ของพระเจ้า

แม้แต่พระเยซู ในคืนก่อนที่พระองค์จะไปที่กางเขน ทรงมีความทุกข์ใจอย่างหนัก และพระองค์ทรงอธิษฐาน สุดท้ายการอธิษฐานของพระองค์ทำให้พระองค์ตัดสินใจรับน้ำพระทัยพระเจ้า และทรงมีท่าทีสงบอย่างเห็นได้ชัดตลอดการทนทุกข์ทรมานจนถึงทรงสิ้นพระชนม์บนกางเขน

มัทธิว 26:42  พระองค์จึงเสด็จไปทรงอธิษฐานอีกเป็นครั้งที่สอง “ข้าแต่พระบิดาของข้าพระองค์ ถ้าถ้วยนี้เลื่อนพ้นไปจากข้าพระองค์ไม่ได้ และข้าพระองค์จำต้องดื่มแล้ว ก็ให้เป็นไปตามพระทัยของพระองค์”

แผนการและน้ำพระทัยของพระเจ้า เป็นเรื่องลึกซึ้งสำหรับเรา พระเจ้าทรงทราบว่าอะไรเหมาะสมที่สุดสำหรับเราทั้งเรื่องอะไรและเวลาไหนที่เหมาะสมที่สุด การอธิษฐานทำให้เกิดการสงบลงต่อพระประสงค์ของพระเจ้า และไว้วางใจในพระเจ้าในหลายสิ่งที่เราไม่เข้าใจเหล่านั้นด้วย

        4.    ทำให้เรามีความยินดีเต็มเปี่ยมเมื่อเราอธิษฐานตามน้ำพระทัยพระเจ้า

จริงแล้วพระเจ้าทรงทราบดีว่าเราต้องการสิ่งใด แต่พระองค์ก็ต้องการให้เราทูลขอต่อพระองค์ ต้องการให้เราพบพระองค์ ติดสนิทกับพระองค์ พึ่งพาพระองค์

ยอห์น 16:24  จนบัดนี้พวกท่านก็ยังไม่ได้ขอสิ่งใดในนามของเรา จงขอเถิดแล้วจะได้ เพื่อความชื่นชมยินดีของท่านจะมีเต็มเปี่ยม

ทั้ง 4 ข้อนี้จะช่วยให้เกิดการพัฒนาความสัมพันธ์กับพระเจ้าในทางที่เติบโตขึ้นฝ่ายจิตวิญญาณในการเป็นผู้เชื่อที่เข้มแข็ง ไม่ใช่มองเพียงแค่ขอและได้หรือไม่ได้รับเท่านั้น แต่เป็นการปรับความคิดและนำชีวิตของเราเข้าไปสู่แผนการพระประสงค์ของพระเจ้า เพื่อดำเนินชีวิตไปในทางของพระองค์

 

การอธิษฐานในชีวิตประจำวันมีอะไรบ้าง

        1.    อธิษฐานสรรเสริญและขอบคุณพระเจ้า

เอเฟซัส 5:20จงขอบพระคุณพระเจ้าคือพระบิดาอยู่เสมอสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง ในพระนามของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา

ให้เราอธิษฐานสรรเสริญและขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับสิ่งที่พระเจ้าประทานในชีวิตในเรื่องต่างๆ เราสามารถขอบคุณพระเจ้าได้เสมอ ในทุกกรณีของชีวิต ทั้งเรื่องที่ดีและบทเรียนจากสถานการณ์บางอย่างที่พระเจ้าให้มาเพื่อพัฒนาชีวิตเรา บางครั้งอาจเจ็บปวด แต่สิ่งที่ได้มาภายหลังนั้นมีแต่ความชื่นชมยินดี

2.    อธิษฐานสารภาพบาป

1 ยอห์น 1:9  ถ้าเราสารภาพบาปของเรา พระองค์ทรงซื่อสัตย์และเที่ยงธรรม ก็จะทรงโปรดยกบาปของเรา และจะทรงชำระเราให้พ้นจากการอธรรมทั้งสิ้น

เป็นโอกาสที่เราจะเข้ามาสารภาพบาปที่เราอาจจะทำผิดไปในแต่ละวัน เป็นการทบทวนและพัฒนาชีวิตของเราเพื่อเราจะได้พ้นจากการถูกมารทดลอง ล่อลวงให้หลงผิดอีก

            3.    อธิษฐานเผื่อพี่น้อง

2 เธสะโลนิกา 1:11   เพราะเหตุนี้ เราจึงอธิษฐานเพื่อพวกท่านเสมอ ขอพระเจ้าของเราทรงให้ท่านเป็นผู้ที่สมควรแก่การทรงเรียกนั้น และขอพระองค์ทรงให้ความตั้งใจดีทุกประการ และกิจการแห่งความเชื่อทุกอย่างสำเร็จด้วยฤทธิ์เดชของพระองค์

เราอาจใช้เวลาอธิษฐานเผื่อพี่เลี้ยงของเรา กลุ่มเซล คริสตจักรของเรา ที่ทำงานของเรา เพื่อนร่วมงาน หรืองานรับใช้พระเจ้าในคริสตจักร อธิษฐานเผื่อพี่น้องที่กำลังอยู่ในความทุกข์ยาก ความเจ็บป่วยร่างกาย หรือจิตใจ เพื่อขอพระเจ้าเมตตาเพื่อให้เราผ่านสิ่งต่างๆ เหล่านั้นไปได้โดยพระกรุณาคุณจากพระเจ้า

            4.    อธิษฐานขอในเรื่องส่วนตัวและฟังพระสุรเสียงจากพระเจ้า

เป็นสิ่งที่ดีหากเราได้คำตอบจากคำอธิษฐานในเรื่องส่วนตัว ทำให้เรามั่นใจในประสบการณ์ดีๆ กับพระเจ้า เราต้องฝากความหวังใจไว้ในพระเจ้า ไว้วางใจในพระองค์ พระเจ้าอาจจะตอบ หรือให้เรารอ หรือไม่ตอบก็ได้ เพราะพระองค์ทรงทราบสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเราเสมอ การอธิษฐานเป็นการพักสงบฟังเสียงของพระเจ้า

รวมทั้งขอบคุณพระเจ้าสำหรับอาหารที่พระเจ้าประทานให้เราในทุกๆ มื้อ เพื่อเป็นการระลึกถึงความรักเมตตาและการเลี้ยงดูของพระเจ้าในชีวิต และเลือกเวลาที่สงบเพื่ออธิษฐานก่อนนอนขอบคุณพระเจ้าสำหรับตลอดทั้งวันที่พระองค์ทรงดูแลชีวิตเราเสมอ

การอธิษฐานทำได้ทั้งชีวิตประจำวันและโอกาสพิเศษ เราอาจจะมีบางเรื่องที่หนักใจอยากทูลต่อพระเจ้าเป็นพิเศษ หรือเราอาจไม่มีอะไรเป็นพิเศษแต่อธิษฐานเพื่อให้เกิดความสัมพันธ์สนิทกับพระองค์ ซึ่งนั่นเป็นสิ่งดีที่สุดสำหรับการพัฒนาชีวิตของผู้เชื่อทุกคน

ข้าพเจ้าใคร่ครวญสิ่งต่างๆ เหล่านี้ ทำให้ข้าพเจ้ากลับมาอธิษฐานก่อนนอนมากขึ้น แทนที่จะเฉพาะช่วงเช้าที่ต้องเร่งรีบมาทำงาน ทำให้ข้าพเจ้าได้ใช้เวลาในการอธิษฐานเผื่อพี่น้องมากขึ้นด้วยเช่นกัน

 

ขอบคุณบทความจาก https://actsofchrist.org/basicchristian-unit6-pray/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น