13 มิถุนายน 2024
เธอคือคนพิเศษ
ปฐมกาล 2:7 TH1971
พระเจ้าทรงปั้นมนุษย์ด้วยผงคลีดิน ระบายลมปราณเข้าทางจมูก
มนุษย์จึงเป็นผู้มีชีวิต
บางทีสิ่งเร้ารอบกายในทุกวันนี้ ทำให้เราอาจรู้สึกหดหู่ คิดลบกับตัวเอง
หรือผู้อื่นได้ สื่อต่างๆ ที่มากมายทำให้เราไขว้เขว เหินห่างจากความรักของพระเจ้าที่มีต่อเรา
เขียนโดย แมกซ์ ลูคาโด แปลโดย พรทิพย์ ยธิกุล
เว็มเม็กซ์คือหุ่นไม้รูปคนตัวเล็ก ๆ หุ่นทุกตัวถูกแกะสลักโดยช่างแกะไม้ชื่อ
เอลี เขาอยู่ที่บนภูเขานอกหมู่บ้าน หุ่นแต่ละตัวจะไม่เหมือนกันบางตัวก็มีจมูกใหญ่
บางตัวก็มีตาโต บางตัวก็สูง บางตัวก็เตี้ย บางตัวสวมหมวก บางตัวสวมเสื้อคลุม
แต่ทุกตัวถูกสร้างขึ้นโดยช่างไม้คนเดียวกัน และอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน
เว็มเม็กซ์ทุกตัวจะมีกล่องที่เต็มไปด้วยสติ๊กเกอร์ที่เป็นรูปดาวสีทอง
และกล่องที่เต็มไปด้วยสติ๊กเกอร์ที่เป็นรูปจุดสีเทา และทุก ๆ วัน
หุ่นเหล่านี้จะทำอย่างหนึ่งเหมือนกัน คือ พวกมันจะติดสติ๊กเกอร์ให้กันและกัน
ทุกตัวสามารถมองเห็นสติ๊กเกอร์รูปดาวหรือรูปจุดที่ติดอยู่บนตัวของแต่ละตัวได้
ตัวที่สวยหน่อย เนื้อไม้เรียบลื่นและทาสีสวยงาม ก็มักจะได้สติ๊กเกอร์รูปดาวเสมอ
แต่ตัวที่เนื้อไม้ไม่เรียบและสีหลุดลุ่ยก็จะได้สติ๊กเกอร์รูปจุด
ตัวที่มีความสามารถพิเศษก็จะได้รับดาวด้วยเหมือนกัน
บางตัวยกไม้ท่อนใหญ่ให้สูงเหนือศีรษะได้ หรือกระโดดข้ามกล่องสูง ๆ ได้
บางตัวก็รู้จักคำศัพท์ยาก ๆ หรือร้องเพลงไพเราะ
ทุกตัวเหล่านี้จะได้รับสติ๊กเกอร์รูปดาว
เว็มเม็กซ์บางตัวได้รับสติ๊กเกอร์รูปดาวเต็มตัวไปหมด
และทุกครั้งที่เขาได้รับรูปดาว พวกเขาก็รู้สึกดี และยิ่งทำให้เขาทำดีอีก
และได้รับดาวเพิ่มขึ้นอีก ส่วนที่เหลือมีความสามารถนิดหน่อยก็ได้รับสติ๊กเกอร์รูปจุด พันชินเนลโล คือหนึ่งในตุ๊กตาพวกหลัง
เขาพยายามกระโดดให้สูงเหมือนตัวอื่น แต่เขาก็ล้มลงทุกครั้ง และเมื่อเขาล้มลง
ตุ๊กตาตัวอื่นก็จะมามุงดูเขาและติดสติ๊กเกอร์รูปจุดให้แก่เขาและบางครั้งเมื่อเขาล้ม
มันทำให้เนื้อไม้ของเขาชำรุดด้วย และทุกคนก็เอาสติ๊กเกอร์รูปจุดมาเพิ่มให้เขาอีก
เขาพยายามอธิบายว่าทำไมเขาล้มลง แต่เขาก็มักจะพูดโง่ ๆ ออกไป ไม่นาน
เขาก็มีสติ๊กเกอร์รูปจุดเต็มไปหมด จนเขาไม่อยากออกนอกบ้านอีกเลย
เพราะเขากลัวว่าเขาจะทำเรื่องโง่ ๆ อีก เช่น ลืมหมวก หรือสะดุดหกล้ม และจะทำให้คนอื่นเอาสติ๊กเกอร์รูปจุดมาติดเพิ่มให้เขาอีก
ที่จริงเขาได้รับสติ๊กเกอร์รูปจุดมากจนเว็มเม็กซ์ที่เดินผ่านมาเจอเขาก็จะติดสติ๊กเกอร์ให้เขาทันทีโดยไม่มีเหตุผล
เพราะว่า “เขาสมควรจะได้รับสติ๊กเกอร์รูปจุดเยอะ ๆ
เขาไม่ใช่หุ่นไม้ที่ดี” ไม่นาน พันชินเนลโลก็เชื่อพวกเขาและพูดกับตัวเองว่า “ฉันเป็นหุ่นไม้ที่ไม่ดี” เวลาที่เขาออกไปข้างนอก
เขาก็มักจะเข้ากลุ่มกับเว็มเม็กซ์ที่มีจุดเยอะ ๆ เหมือนเขา
เขารู้สึกดีที่จะอยู่กับหุ่นไม้ที่เหมือนกันกับเขา
วันหนึ่ง เขาพบเว็มเม็กซ์ตัวหนึ่งที่ไม่เหมือนตัวอื่นที่เขาเคยพบมาก่อน
เธอไม่มีสติ๊กเกอร์รูปจุดหรือดาวเลย เธอก็เป็นหุ่นไม้ตัวหนึ่งเหมือนกับเขา
เธอชื่อว่า ลูเซีย ไม่ใช่ว่าไม่มีใครพยายามจะติดสติ๊กเกอร์ให้กับเธอ
แต่สติ๊กเกอร์เหล่านั้นติดไม่อยู่และหลุดหมด
มีบางคนชื่นชมลูเซียที่ไม่มีสติ๊กเกอร์รูปจุดเลย พวกเขาจึงวิ่งมาจะให้สติ๊กเกอร์รูปดาวกับเธอ
แต่สติ๊กเกอร์นั้นก็จะหลุดลงมา บางคนก็ดูถูกเธอที่ไม่มีสติ๊กเกอร์รูปดาว
พวกเขาจึงอยากให้สติ๊กเกอร์รูปจุดแก่เธอ แต่มันก็ไม่ติดเหมือนกัน
พันชินเนลโลจึงคิดในใจว่า “ฉันก็อยากจะเป็นอย่างนั้นเหมือนกัน”
ดังนั้น เขาจึงถามเว็มเม็กซ์ที่ไม่มีสติ๊กเกอร์ว่า “ฉันไม่อยากได้สติ๊กเกอร์ของใคร ๆ เหมือนกัน เธอทำยังไงน่ะ” ลูเซียตอบว่า “ง่ายมาก ทุก ๆ วันฉันจะไปหาเอลี”
“เอลีหรือ?” “ใช่ เอลีช่างไม้ไงล่ะ
ฉันจะไปนั่งคุยกับเขาทุกวัน” “ทำไมเธอไม่ไปหาคำตอบด้วยตัวเธอเองล่ะ? ขึ้นไปบนภูเขาสิ
เขาอยู่ที่นั่น”จากนั้น เว็มเม็กซ์ที่ไม่มีสติ๊กเกอร์ก็หันหลังแล้วเดินจากไป
“แต่ถ้าเขาไม่อยากจะเจอฉันล่ะ?” พันชินเนลโลตะโกนถาม
แต่ลูเซียไม่ได้ยิน ดังนั้น พันชินเนลโลจึงกลับบ้าน เขานั่งใกล้หน้าต่าง
และมองดูพวกหุ่นไม้ที่เดินเข้าหากันและกันและให้สติ๊กเกอร์แก่กันและกัน “นี่มันไม่ถูกต้องเลย” เขารำพึงกับตัวเอง
และเขาก็ตัดสินใจที่จะไปหาเอลี เขาเดินไปตามทางแคบ ๆ
ไปยังยอดเขาและเข้าไปยังบ้านของช่างไม้ แล้วตาของเขาก็เปิดกว้างเมื่อมองเห็นทุก
สิ่งในนั้นมีขนาดใหญ่โตมาก เก้าอี้มีขนาดสูงเท่ากับตัวเขา
เขาต้องยืนเขย่งขาขึ้นเพื่อที่จะมองเห็นว่ามีอะไรอยู่บนโต๊ะ
มีขวานที่มีขนาดยาวเท่ากับแขนของเขา พันชินเนลโลกลืนน้ำลายด้วยความยากเย็น “ฉันจะไม่อยู่ที่นี่แน่!” แล้วเขาก็หันหลังกลับ
แต่แล้วเขาก็ได้ยินเสียงเรียกชื่อเขา"พันชินเนลโล?"
เสียงนั้นนุ่มลึกและมีพลัง พันชินเนลโลหยุดเดิน “พันชินเนลโล! ดีใจจริง ๆ ที่เจอเจ้าที่นี่ มานี่มา
มาให้เราดูเจ้าใกล้ ๆ หน่อย” พันชินเนลโลหันกลับมาช้า ๆ
และมองไปที่ช่างไม้ร่างใหญ่ที่มีหนวดเครา “คุณรู้จักชื่อผมด้วยหรือครับ?”
เว็มเม็กซ์ตัวน้อยถาม "แน่นอนสิ
เรารู้จักเจ้า เราสร้างเจ้ามา" เอลีก้มลงและอุ้มเขาขึ้นมานั่งบนเก้าอี้
“อืม..” เอลีกล่าวขึ้นมาอย่างใคร่ครวญและมองเขาด้วยอย่างสำรวจที่สติ๊กเกอร์รูปจุดสีเทา
“ดูเหมือนเจ้าได้รับเครื่องหมายที่ไม่ค่อยดีเยอะเลยนี่”
“ผมไม่ได้ตั้งใจนะครับ เอลี ผมพยายามแล้ว” “โอ้
เจ้าไม่ต้องอธิบายกับเราหรอก ลูกรัก เราไม่สนใจหรอกว่าเว็มเม็กซ์ตัวอื่น ๆ
พูดถึงเจ้าอย่างไร” “คุณไม่สนหรือครับ?” “ไม่เลย และเจ้าก็ไม่ควรสนใจด้วยเช่นกัน พวกเขาเป็นใคร ที่จะมาเที่ยวให้ดาวหรือจุดกับใคร
ๆ ? พวกเขาก็เป็นเพียงหุ่นไม้เหมือนกับเจ้า
พวกเขาคิดยังไงก็ไม่สำคัญหรอก พันชินเนลโล สิ่งที่เราคิดต่างหากที่สำคัญ
และเราก็คิดว่าเจ้าเป็นหุ่นที่พิเศษมาก”พันชินเนลโลหัวเราะ “ผมน่ะเหรอครับ พิเศษ? ทำไมล่ะครับ? ผมวิ่งก็ไม่เร็ว กระโดดก็ไม่สูง สีของผมก็หลุดลอก
แล้วผมจะพิเศษสำหรับคุณอย่างไร?”เอลีมองพันชินเนลโล
เขาเอามือวางบนไหล่เล็ก ๆ ของเจ้าหุ่นไม้ตัวเล็ก และพูดด้วยเสียงเบา ๆ ว่า “เพราะว่าเจ้าเป็นของเรา ดังนั้นเจ้าจึงสำคัญสำหรับเรา”ไม่เคยมีใครมองพันชินเนลโลอย่างนี้มาก่อน เขาไม่รู้จะพูดอย่างไรดี "ทุกวัน เราเฝ้าหวังว่าเจ้าจะมา” เอลีกล่าว “ผมมาเพราะว่าผมเจอหุ่นไม้ตัวหนึ่งที่ไม่มีสติ๊กเกอร์” "เรารู้แล้ว เธอเล่าเรื่องที่เจอกับเจ้าให้เราฟัง" "ทำไมสติ๊กเกอร์ถึงไม่ติดบนตัวเธอล่ะครับ?" "เพราะว่าเธอเลือกที่จะเชื่อว่าสิ่งที่เราคิดสำคัญกว่าสิ่งที่คนอื่น ๆ
คิดน่ะสิ สติ๊กเกอร์มันจะติดอยู่ที่ตัวเธอได้เพราะว่าเธออนุญาตเท่านั้น”
"อะไรนะ ?" "สติ๊กเกอร์สามารถติดบนตัวเธอได้ถ้าเธอคิดว่ามันสำคัญสำหรับเธอ
แต่ถ้าเธอวางใจในความรักของเรามากเท่าไหร่
เธอก็จะสนใจเกี่ยวกับสติ๊กเกอร์น้อยลงเท่านั้น” "ผมไม่แน่ใจว่าผมเข้าใจ" "เจ้าจะเข้าใจ แต่มันต้องใช้เวลา เจ้ามีสติ๊กเกอร์และบาดแผลมาก ดังนั้น
จากนี้ไป จงมาหาเราทุกวัน และให้เราได้ทำให้เจ้าได้รู้ว่าเราสนใจเจ้าแค่ไหน” เอลีอุ้มพันชินเนลโลลงจากเก้าอี้ “จำไว้นะ” เอลีกล่าวขณะที่พันชินเนลโลก้าวออกจากประตู “เจ้าเป็นคนพิเศษ
เพราะว่าเรา
สร้างเจ้ามา แล้วเราไม่ได้สร้างเจ้ามาผิดพลาด”พันชินเนลโลเดินจากไปพร้อมกับคิดว่า
“ฉันคิดว่าเขาคิดอย่างนั้นจริง ๆ” แล้วทันใดนั้น
สติ๊กเกอร์รูปจุดก็ร่วงหล่นลงพื้น
คนเรามักจะตัดสินกันด้วยความรู้สึกของตนเอง
ความจริงแล้วเรามีสิทธิที่จะตัดสินผู้อื่นหรือไม่
แล้วเราวัดกันจากอะไรว่าบุคคลนั้นเป็นคนที่น่ายกย่อง
บุคคลนั้นเป็นบุคคลที่น่ารังเกียจ
บ่อยครั้งคนเรามักจะวัดหรือตัดสินกันทางสังคมหรือทางโลก ผู้ที่น่ายกย่องคือผู้ที่มีทรัพย์สินเงินทอง
ผู้ที่เราจะได้ประโยชน์จากคนๆ นั้น
และเรามักจะจดจำกับสิ่งที่ผู้อื่นมากำหนดหรือตัดสินในด้านลบกับตัวเรา และท้อถอย
หากไม่ใช่แล้วเราไม่ต้องรับในสิ่งที่ผู้อื่นตัดสินในด้านลบกับตัวเรา
ซึ่งจะเหมือนกับรูปจุดสีเทาที่หุ่นไม้อื่นๆ มาติดให้กับลูเซียและพันชินเนลโลต้องหลุดออกไป จากตัวของเขาทั้ง 2
และในทำนองเดียวกัน เราก็ต้องระวัง
ที่จะไม่เผลอหลงไปกับดาวสีทองที่ผู้อื่นติดให้ จนทำให้เราหยิ่งและดูถูกผู้อื่น
คนเราทุกคนมีคุณค่าในสายพระเนตรของพระเจ้าเสมอ เพราะพระเจ้าบรรจงสร้างเรา เราเป็นคนพิเศษสำหรับพระเจ้า เราจำเป็นที่จะต้องเข้ามาหาคำตอบจากผู้ที่สร้างเรา
เพื่อทราบพระประสงค์จากผู้ที่สร้างเรา เหมือนดังเช่นลูเซียที่แนะนำให้พันชิเนโลมาหาผู้สร้าง
ไม่แต่เฉพาะวันแย่ๆ หรือวันดีๆ เท่านั้น คือ ทุกๆ วัน
และเราจะได้คำตอบที่เป็นเฉพาะเจาะจงสำหรับเรา
1 ซามูเอล 16:7
แต่พระเจ้าตรัสกับซามูเอลว่า
<<อย่ามองดูที่รูปร่างภายนอกหรือที่ความสูงแห่งร่างกาย
ของเขา ด้วยเราไม่ยอมรับเขา เพราะพระเจ้าทอดพระเนตรไม่เหมือนกับที่มนุษย์ดู
มนุษย์ดูที่รูปร่างภายนอกแต่พระเจ้าทอดพระเนตรจิตใจ>>