17 เมษายน 2023
ความอดทน
สุภาษิต 16:32
บุคคลผู้โกรธช้าก็ดีกว่าคนมีกำลังมาก
และบุคคลผู้ปกครองจิตใจของตนเองก็ดีกว่าผู้ที่ตีเมืองได้
บทความที่จะนำมาแบ่งปันในเช้าวันนี้ นำส่วนหนึ่งมาจากในหนังสือชื่อ
พลังเปลี่ยนชีวิต ของ ริค วอร์เร็น ในเรื่องการสร้างความอดทน
ในพจนานุกรมแปลคำว่า อดทน นั้นหมายถึง ยอมรับสภาพความยากลำบาก
อึด ไม่ท้อถอย
นักศึกษาด้านจิตวิทยา จอห์น ดิวอี้ กล่าวว่า คุณความดีที่มีประโยชน์ที่สุดในโลกคือความอดทน
ความจริงก็คือ เราจำเป็นต้องใช้ความอดทนตลอดเวลา และจำเป็นต้องใช้มันทุกหนทุกแห่ง
ริค วอร์เร็น ได้เล่าว่า หลายปีก่อน ขณะเผชิญช่วงเวลาที่ยากลำบาก
ผมเริ่มอธิษฐานว่า “พระเจ้า ขอความอดทนแก่ลูกมากขึ้นด้วยเถิด” แล้วผมก็คาดว่า ปัญหาจะลดน้อยลง แต่กลับแย่ยิ่งกว่าเดิม ผมจึงบอกพระเจ้าว่า
“ขอความอดทนแก่ลูกมากขึ้นอีก” และแล้วปัญหาก็แย่สุดขีดเลยทีนี้
ต่อมาผมจึงตระหนักว่า จริงๆ แล้วพระเจ้าตอบคำอธิษฐานของผมแล้ว ผมได้กลายเป็นคนที่มีความอดทนมากขึ้นอย่างมาก
ขอบคุณสำหรับปัญหาพวกนั้น
แล้วเราจะเป็นคนที่มีความอดทนได้อย่างไร
1. สร้างมุมมองใหม่
มองสถานการณ์หรือบุคคลนั้น
ๆ ที่กำลังสร้างปัญหาให้เราในมุมมองใหม่ เวลาที่เราไม่อดทน
เราก็จะมีมุมมองจำกัด ทุกอย่างที่เห็นก็มีแต่ตัวเอง ความจำเป็นของตัวเอง
ความปรารถนาของตัวเอง เป้าหมายของตัวเอง ให้มองอะไรๆ จากมุมมองของคนอื่นๆ บ้าง นั่นก็คือ การเอาใจเขามาใส่ใจเรา มองสถานการณ์จากมุมมองของคนอื่น
และดูว่าทำไมพวกเขาจึงคิดแบบนั้น ทำไมพวกเขาจึงรู้สึกอย่างนั้น แต่การมองโดยใช้สายตาของมนุษย์อาจมีความผิดพลาดได้
เราจึงต้องใช้ปัญญาในการมองจากมุมมองของพระเจ้ามุมมองของพระเจ้าช่วยให้เราเข้าใจความจริงดังนี้
1.1 เราเป็นเพียงมนุษย์ ไม่ใช่พระเจ้า มนุษย์ไม่สมบูรณ์แบบ
และควบคุมทุกสิ่งไม่ได้
1.2
คนอื่นๆ ก็ไม่มีใครสมบูรณ์แบบเหมือนกัน
จึงไม่น่าประหลาดใจที่คนอื่นมักทำให้เราผิดหวัง
1.3
พระเจ้าเป็นผู้ควบคุมทุกสิ่ง และพระองค์สามารถใช้สถานการณ์ต่างๆ
ทั้งความน่ารำคาญและปัญหาต่างๆ ที่เข้ามาในชีวิตของเราเพื่อทำให้พระประสงค์ของ
พระองค์สำเร็จต่อชีวิตเรา
สุภาษิต 20:24
"ย่างเท้าของมนุษย์นั้นพระเจ้าทรงเป็นผู้สั่ง แล้วคนจะเข้าใจทางของเขาเองได้อย่างไร"
นี่หมายความว่า
เราอาจพบกับความล่าช้าจากพระเจ้า
บางครั้งพระเจ้าจะวางคนน่ารำคาญไว้รอบข้างเรา เพื่อจะสอนอะไรบางอย่างกับเรา
ลองหามุมมองใหม่จากพระเจ้า
ในพระคัมภีร์ทั้งเล่ม พระเจ้าเปรียบเทียบความอดทนกับความเป็นผู้ใหญ่
สุภาษิต 14:29
บุคคลที่โกรธช้าก็มีความเข้าใจมาก
แต่บุคคลที่โมโหเร็วก็ยกย่องความโง่
ความอดทนเป็นเครื่องหมายของความเป็นผู้ใหญ่
เด็กๆ ส่วนใหญ่อดทนอะไรไม่ค่อยได้ เช่น
บางครั้งไปห้างสรรพสินค้า ถ้าไม่ได้ของเล่นก็จะงอแง บางทีก็ร้องไห้ และหาวิธีที่จะให้พ่อแม่ซื้อของเล่นให้
2. ให้ความรักเพิ่มพูนขึ้น
1 โครินธ์ 13:4
"ความรักนั้นก็อดทนนาน..." ถ้าขาดความอดทน
แสดงว่าความรักยังไม่มากพอ
ถ้าหัวใจของเราเต็มไปด้วยความรัก ก็ไม่มีอะไรที่จะมายั่วยุให้เราโกรธหรือทำให้ใจเราร้อนได้เลย...ตรงกันข้าม
เมื่อใจเราเต็มด้วยความโกรธ อะไรก็สามารถยั่วโมโหเราได้ทั้งนั้น
จงให้ความรักในตัวเราเพิ่มมากขึ้น เอเฟซัส 4:2 "คือจงมีใจถ่อมลงทุกอย่าง
และใจอ่อนสุภาพอดทนนาน และอดกลั้นต่อกันและกันด้วยความรัก"
ริกเล่าว่า ตอนที่ผมอยู่มหาวิทยาลัย มีผู้ชายคนหนึ่งรบกวนใจผมมาก
ที่ร้ายกว่านั้นคือ เขาพยายามอย่างหนักที่ต้องมาคอยอยู่ใกล้ๆ ผม
และทำให้ผมต้องเจ็บปวด แต่แล้วคืนหนึ่งผมอ่าน เอเฟซัส 4:2 มันเหมือนมีดกรีดเข้าไปในใจ “พระเจ้า
ลูกไม่รักหมอนั่นเลย” ผมสารภาพ ความรักไม่ใช่แค่ความรู้สึก
มันเป็นการตัดสินใจและการกระทำ ในคืนนั้นที่มหาวิทยาลัย ผมจึงพูดว่า “พระเจ้า ขอช่วยผมรักนายคนนี้ให้ได้ในวันพรุ่งนี้ ไม่ใช่ตลอดไป” ผมบอกพระเจ้าว่า “พระเจ้า
ถ้าการที่หมอนี่สร้างความรำคาญให้ผมแล้วทำให้ผมเป็นเหมือนพระคริสต์มากขึ้นล่ะก็
ทำให้ผมเป็นเหมือนพระคริสต์เถิด สอนให้ผมอดทนได้ ถ้านายคนนี้กวนใจผมก็ทำให้ผมเป็นเหมือนพระองค์มากขึ้น
แล้วในวันรุ่งขึ้นผมตื่นไปเรียนตามปกติ ผมไม่เห็นเค้าทั้งวันเลย แต่แล้วช่วงเวลาอาหารเย็น
ผมเดินเข้าไปในห้องอาหารแล้วก็นั่งลง ขณะกำลังทานอาหารเย็น
หมอนี่ก็เดินผ่านมาแล้วพูดว่า “เอ้า ริค
ไม่เห็นคุณเลยทั้งวัน” แล้วเขาก็เทสปาเก็ตตี้ของเขาลงบนหัวและเสื้อเชิร์ตของผม
น้ำโค้กราดบนกางเกงผม ทุกคนในห้องอาหารหันมามองผม แต่ตอนนั้นผมเต็มไปด้วยความรัก
สันติสุข และความชื่นบานเพราะผมเตรียมใจมาแล้ว เตรียมมาจริงๆ ผมอธิษฐานมาทั้งวัน
ผมจึงได้แต่บอกว่า “สรรเสริญพระเจ้า” ผมแน่ใจว่าทุกคนคงคิดว่าผมคงเสียสติ
เกิดอะไรขึ้นเมื่อเราสรรเสริญพระเจ้าเพราะคนที่คอยสร้างความรำคาญใจแก่เรา
เราก็เหมือนพระเยซูมากขึ้นจนพวกเขาเลิกยุ่งกับเราอีก หรือถ้ามันเป็นมารที่ใช้คนๆ
นั้นมาแกล้งเรา มันก็จะเลิกไปเลย เพราะสถานการณ์มีแต่จะทำให้เราสรรเสริญพระเจ้า
ถ้าเราหัดสรรเสริญพระเจ้าในทุกสถานการณ์ได้ เราก็สร้างกำแพงแห่งการสรรเสริญไว้รอบๆ
ชีวิตเรา ที่แม้แต่มารซาตานก็ไม่อาจทะลุทะลวงกำแพงแห่งการสรรเสริญนี้ได้
3. การพึ่งพระเจ้า
เราสามารถสร้างความอดทนได้โดยการพึ่งพระเจ้า
ความอดทนไม่ใช่แค่ความตั้งใจของมนุษย์เท่านั้น แต่เป็นผลของพระวิญญาณ
ความอดทนไม่ใช่การสวมหน้ากากเสแสร้ง
ไม่ใช่การอดทนต่อคนหนึ่ง แต่ในใจกำลังเกลียด
ถ้าความอดทนของเรามาจากพระเจ้า
หรือถ้ามันเป็นของแท้จากพระวิญญาณ เราจะมีสันติสุขภายในอย่างแท้จริง
ความอดทนเป็นการแสดงความเชื่อของเราว่า
"เราวางใจในพระเจ้า เราเชื่อว่าพระเจ้ายิ่งใหญ่กว่าปัญหานี้
พระเจ้ามีแผนการที่ดีต่อชีวิตของเรา"
มุมมองของพระเจ้าช่วยให้เราสามารถพูดได้ว่า "พระเจ้า พระองค์จะให้ลูกเรียนรู้อะไรในเวลานี้" ไม่ใช่พูดว่า "พระเจ้า
ทำไมต้องเกิดเรื่องนี้ด้วย"
โนอาห์ต้องรอคอย
120 ปี กว่าฝนที่พระเจ้าสัญญาไว้จะตก อับราฮัม
รอจนถึงอายุ 100 ปี กว่าจะมีลูก โมเสสรอคอย 40 ปีในถิ่นทุรกันดาร แล้วใช้เวลาอีก
40 ปี นำชาวอิสราเอลในถิ่นทุรกันดารเข้าสู่แผ่นดินพระสัญญา
ทุกๆ
คนในพันธสัญญาเดิมต่างรอคอยพระเมสสิยาห์ (พระคริสต์)เสด็จมา ในยุคพันธสัญญาใหม่ เหล่าสาวกรอคอยพระวิญญาณบริสุทธิ์อยู่ในห้องชั้นบน ทุกคนต้องพบกับความอดทนที่ยาวนาน พระคัมภีร์เป็นหนังสือแห่งการรอคอย
ก็เพราะการรอคอยแสดงถึงความเชื่อ และความเชื่อเป็นสิ่งที่พระเจ้าพอพระทัย
การรอคอยที่ยากที่สุดคือ รอคอยพระเจ้าในขณะที่เรากำลังรีบ
แต่พระองค์ไม่รีบ มันยากที่จะอดทนเวลาเรากำลังรอคำตอบอธิษฐาน หรือการรอให้เกิดการอัศจรรย์ แต่การรอคอยด้วยความอดทนเป็นหลักฐานที่แสดงถึงความเชื่อศรัทธา
ทั้งยังเป็นสิ่งพิสูจน์ความเชื่อด้วย ว่าเรารอคอยได้นานแค่ไหน
ลาซารัสเป็นเพื่อนสนิทของพระเยซู แต่วันหนึ่งเขาป่วยหนัก มารีย์กับมาร์ธา
น้องสาวของเขาส่งข่าวถึงพระเยซู “นายเจ้าข้า เพื่อนรักของพระองค์กำลังป่วย”(ยอห์น 11:3) และในพระคัมภีร์บอกว่า
เมื่อพระเยซูได้ยินอย่างนั้น พระองค์จงใจรออีก 2 วัน ก่อนเดินทางไปเบธานีเมืองที่พวกเขาอยู่
กว่าจะมาถึงลาซารัสก็ตายไปแล้ว ร่างของเขาถูกฝังไว้ในอุโมงค์เรียบร้อย จากเหตุการณ์ดูเหมือนว่าพระเยซูมาช้าเกินไป
แต่พระเยซูรู้ดีว่ายังไม่สายเกินไป
พระองค์เดินไปที่อุโมงค์ฝังศพและเรียก “ลาซารัส ออกมา”
แล้วลาซารัสก็ออกมา – โดยเขายังมีชีวิตอยู่
ความจริงก็คือ
พระเจ้าไม่เคยสาย
เวลาของพระเจ้านั้นไร้ที่ติ
พระองค์อาจจะไม่ทำตามตารางเวลาของเรา แต่พระองค์ทันเวลาเสมอ พระองค์ต้องการให้เราไว้วางใจและรอคอยพระองค์ พระเจ้าอยากให้เราวางใจพระองค์เหนือสิ่งอื่นใด
ความอดทนเป็นหลักฐานของความเชื่อที่เรามีในพระองค์
เอเฟซัส 5:1-2
"1เหตุฉะนั้นท่านจงเลียนแบบของพระเจ้า
ให้สมกับเป็นบุตรที่รัก 2และจงดำเนินชีวิตในความรักเหมือนดังที่พระคริสต์ได้ทรงรักเราทั้งหลาย
และทรงประทานพระองค์เองเพื่อเรา
ให้เป็นเครื่องถวายและเครื่องบูชาอันเป็นที่โปรดปรานของพระเจ้า"
ขอบคุณพระเจ้า ขอบคุณบทความจากหนังสือ พลังเปลี่ยนชีวิต ของ ริค วอร์เร็น ที่ได้มีโอกาสนำส่วนหนึ่งมาแบ่งปัน