รัก (ตามอย่างพระเยซูคริสต์)
1 โครินธ์ 16:14
ทุกสิ่งซึ่งท่านกระทำนั้น
จงกระทำด้วยความรัก
เมื่อวานตอนเช้าข้าพเจ้าได้รับข้อความผ่านไลน์
เป็นข้อความที่อ่านแล้วรู้สึกดี หนุนใจ ให้ข้อคิด ให้กำลัง ก่อนที่จะเริ่มทำงาน
และขณะทำงานก็มีหลายสิ่งหลายอย่างเข้ามาในจิตใจ
ทำให้ต้องเปิดอ่านข้อความและคิดหันกลับมามองที่ตัวเองทุกครั้ง ซึ่งที่ว่า
พระวจนะของพระเจ้านั้น เป็นโคมส่องเท้าสำหรับเรา
เป็นกระจกเงาสะท้อนให้เรามองที่ตัวเอง มากกว่าการโทษผู้อื่น
จึงขอนำข้อความดีๆ
มาแบ่งปันกับทุกท่าน
L O V E (heart)
(*)
ความรักของพระเจ้า
ทำให้เรารู้จักถ่อมใจลง ด้วยไม่คิดสำคัญตน ว่าดีไปกว่าใคร.
(.)
ความรักของพระเจ้า
ทำให้เรามีความเชื่อ และความหวังใจไม่สิ้นสุด.
(*)
ความรักของพระเจ้า
ทำให้เราร้องไห้ น้ำตาไหล ให้กับผู้ที่ทุกข์ตรมขมขื่นใจ.
(*)
ความรักของพระเจ้า
ทำให้เราเข้าใจผู้อื่น มากกว่าคิดเห็นแก่ตัว.
(*)
ความรักของพระเจ้า
ทำให้เรารู้จักอภัย และให้โอกาสกับผู้ที่หลงผิด.
(*)
ความรักของพระเจ้า
ทำให้เรารู้จักละอาย และเกลียดชังความชั่ว
(*)
ความรักของพระเจ้า
ทำให้เราสำนึกกลับใจ และหันจากชีวิตเก่าที่บาปผิดนั้นเสียสิ้น.
(*)
ความรักของพระเจ้า
ทำให้เรารู้จักยินยอมพร้อมมอบให้กับผู้ที่โหยหาและขาดแคลน
(*)
ความรักของพระเจ้า
ทำให้เรามีความชื่นชมยินดีต่อความสุขของผู้อื่น.
(*)
ความรักของพระเจ้า
ทำให้เรารู้จักแสวงหาความถูกต้องชอบธรรม.
(*)
ความรักของพระเจ้า
ทำให้เรารู้ว่า ไม่มีสิ่งใดจะยิ่งใหญ่เท่าความรักนี้อีกแล้ว
เพราะ..... “พระเจ้าทรงเป็นความรัก"
1 ยอห์น 4 :
8 “ผู้ที่ไม่รักก็ไม่รู้จักพระเจ้า
เพราะว่าพระเจ้าทรงเป็นความรัก”
เพราะ . .
.ความรัก ( แบบพระเจ้า ) ยิ่งใหญ่ที่สุด"
1 โครินธ์ 13 :
13 “ดังนั้นยังตั้งอยู่สามสิ่ง
คือความเชื่อ ความหวังใจ และความรัก แต่ความรักใหญ่ที่สุด”
(*)
(#)ความรักยิ่งใหญ่ที่สุด
Greatest Love
(heart)
แล้วพระเจ้าทรงเป็นความรัก God is Love นั้นคือ ?
เราสามารถรู้จักรักที่แท้จริงได้จากพระเจ้า
พระผู้สร้างของเรา ความรักที่มาจากพระเจ้า ไม่ใช่เป็นอารมณ์รัก หรือการเห็นแก่ตัว ปกติ
ความรักแบบมนุษย์ คือความรักที่ต้องการครอบครอง ความรักที่มีเงื่อนไข
ต้องรักคนที่เขารักเรา รักจากประโยชน์ที่ได้รับ รักแบบโน้น รักแบบนี้
ความรักของพระเจ้าเป็นความรักที่แตกต่างกับความรักของมนุษย์ นั่นก็คือ
การให้ - พระเจ้าประทานพระบุตรคือพระเยซูคริสต์แก่เรา
เพื่อช่วยเราให้พ้นจากบาปและให้เราเป็นอิสระจากความทุกข์
และช่วยให้เราให้พ้นจากนรก แต่ไม่ใช่เพียงแค่นั้น
เพราะทุกๆวันพระเจ้าให้ชีวิตแก่เรา ให้ลมหายใจ และสิ่งที่ดีๆทุกอย่าง
พระเจ้าให้ของขวัญที่ดีแก่เราเพราะว่าพระเจ้าทรงรักเรา
การเสียสละ -
พระเจ้าสำแดงให้เห็นถึงความรักที่พระองค์มีต่อเราผ่านการตายของพระเยซูบนไม้กางเขน
พวกเราเคยเป็นศัตรูของพระเจ้าเพราะว่าพวกเราไม่ได้เลือกที่จะเชื่อพระเจ้าว่าพระเจ้าเป็นผู้สร้างโลกและเราเลือกที่จะเคารพวิญญาณรูปเคารพอื่นๆ
พระเจ้าพระผู้สร้างจึงต้องยอมตายชดใช้เพื่อให้มนุษย์รอดพ้นจากความผิดบาป
เพื่อให้เราสามารถที่จะมีความสัมพันธ์กับพระเจ้าแต่เพียงผู้เดียว
พระองค์ไม่ได้แค่เสียสละ แต่พระเจ้าทรงทำทุกอย่างเพื่อเรา
เพราะว่าพระองค์ทรงรักเรา
การรักโดยไม่มีเงื่อนไข - พระเจ้าทรงเป็นความรักที่ไม่ใช่ความรักที่ขึ้นอยู่กับสิ่งใด
หรือไม่ได้ว่ารักเพราะเราทำความดีต่อพระองค์ แต่พระเจ้ารักเราด้วยความจริงใจ
เราไม่ต้องถวายสิ่งใดๆต่อพระเจ้าเพื่อที่จะทำให้พระเจ้ามารักเรา
เพราะพระเจ้าไม่ได้รักเราเพราะว่าเราเป็นคนน่ารักแต่พระองค์รักเราจากใจที่บริสุทธิ์
การเปลี่ยนแปลงในเรา - ถ้าเรายอมรับความรักของพระเจ้า ชีวิตเราจะได้รับการเปลี่ยนแปลง
พระเจ้ารักในสิ่งที่เราเป็น และพระเจ้ารักเรามากเกินกว่าจะเห็นเราใช้ชีวิตอยู่ในความบาป
พระเจ้าต้องการให้เรามีการเปลี่ยนแปลงจากข้างใน เมื่อเรามีประสบการณ์ในความรักของพระเจ้าจิตใจทีชอกช้ำของเราจะได้รับการเยียวยา
เราจะเห็นได้ว่าเราไม่ใช่คนๆ เดิมอีกเมื่อความรักของพระองค์เข้ามาเปลี่ยนแปลงจิตใจของเรา
(ส่วนหนึ่งนำมาจาก FB GOD is love / 10 เมษายน 2013)
การที่เราจะมีประสบการณ์ในความรักของพระเจ้าได้นั้น
เราต้องเปิดใจที่จะต้อนรับพระเยซูคริสต์เข้ามาในจิตใจของเรา และเรียนรู้จากพระองค์
ให้พระองค์ค่อยๆ เปลี่ยนจิตใจของเรา ดังที่พระเจ้าได้ตรัสในพระธรรม เอเสเคียล
36:26 “เราจะให้ใจใหม่แก่เจ้าและเราจะบรรจุ จิตวิญญาณใหม่ไว้ในเจ้า เราจะนำใจหินออกไปเสียจากเนื้อของเจ้า
และให้ใจเนื้อแก่เจ้า”
1 โครินธ์ 13:4-7
4ความรักนั้นก็อดทนนานและกระทำคุณให้ ความรักไม่อิจฉา ไม่อวดตัว
ไม่หยิ่งผยอง 5ไม่หยาบคาย ไม่คิดเห็นแก่ตนเองฝ่ายเดียว ไม่ฉุนเฉียว ไม่ช่างจดจำความผิด 6ไม่ชื่นชมยินดีเมื่อมีการประพฤติผิด แต่ชื่นชมยินดีเมื่อประพฤติชอบ 7ความรักทนได้ทุกอย่างแม้ความผิดของคนอื่น และเชื่อในส่วนดีของเขาอยู่เสมอ
และมีความหวังอยู่เสมอ และทนต่อทุกอย่าง
ใน 1 โครินธ์ 13:4-7 เราจะเห็นส่วนประกอบของความรัก
9 ประการคือ
อดทนนาน – มีความอดทน ไม่รีบร้อน
รอคอยได้ ทนต่อทุกสิ่งและเชื่อในส่วนดีของเขาเสมอ และมีความหวังเสมอ
เพราะความรักทำให้เข้าใจทุกอย่าง
กระทำคุณให้ – ความเมตตากรุณา
คือการแสดงออกซึ่งความรักความเมตตาต่อกันและกัน
เราผ่านเข้ามาบนโลกเพียงแค่ครั้งเดียว ต้องไม่ผัดวันประกันพรุ่งที่จะทำดีต่อคนทั้งปวง
เพราะเราอาจไม่มีโอกาสมีวันพรุ่งนี้ก็ได้
ความรักไม่อิจฉา – มีความเอื้อยเฟื้อ
เค้าบอกว่าความอิจฉาเป็นวิญญาณของความโลภ การอิจฉาผู้อื่นทำให้เราเกิดความโลภ
อยากมีอยากได้ของผู้อื่น อยากเหนือผู้อื่น ทำให้เกิดการทำร้ายกัน
ไม่อวดตัว ไม่หยิ่งผยอง – คือมีความถ่อมใจ
ไม่อวดอ้างสิ่งที่ทำไป ความรักไม่กระทำเพื่อความพอใจของตนเองเท่านั้น
ไม่หยาบคาย – มีความสุภาพ
เป็นส่วนหนึ่งของความรักที่แสดงออกมาโดยการกระทำ
เมื่อมีความรักก็จะมีความสุภาพต่อกัน
ไม่คิดเห็นแก่ตนเองฝ่ายเดียว
– การเห็นแก่ผู้อื่น ไม่นึกถึงแต่ผลประโยชน์ของตนเองก่อน
ไม่ฉุนเฉียว – การมีอารมณ์ดี
ความฉุนเฉียวนำมาซึ่งความแต่ร้าวในสังคม สูญเสียความสัมพันธ์กับผู้อื่น
หากเราเปลี่ยนจิตใจ ไม่ปล่อยให้อารมณ์ชั่ววูบมาครอบงำ รู้จักรัก
อารมณ์ฉุนเฉียวก็จะไม่เกิดขึ้น
ไม่ช่างจดจำความผิด – ให้อภัยซึ่งกันและกัน
ไม่ชื่นชมยินดีเมื่อมีการประพฤติผิด
แต่ชื่นชมยินดีเมื่อประพฤติชอบ – มีความจริงใจ
สิ่งผิดก็ต้องเตือนกันได้เพื่อไม่ให้หลงผิด ไม่พูดเอาใจกันทั้งที่ผิด
เมื่อผู้อื่นมีความชื่นชมยินดี เราก็มีความชื่นชมยินดีด้วย
ส่วนประกอบของความรัก 9
ประการนี้เป็นของประทานที่พระเจ้ามอบให้กับเราฟรีๆ เพียงแต่เราจะรับไว้หรือไม่
และใน 1 โครินธ์ 13:7 “ความรักทนได้ทุกอย่างแม้ความผิดของคนอื่น
และเชื่อในส่วนดีของเขาอยู่เสมอ และมีความหวังอยู่เสมอ และทนต่อทุกอย่าง”
(ขอขอบคุณทุกข้อคิด ทุกบทเรียน ทุกบทความดีๆ ที่ได้นำมารวบรวมแบ่งปัน)