วันศุกร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

รัก (ตามอย่างพระเยซูคริสต์)



รัก (ตามอย่างพระเยซูคริสต์)

19 กุมภาพันธ์ 2020
1 โครินธ์ 16:14
          ทุกสิ่งซึ่งท่านกระทำนั้น จงกระทำด้วยความรัก

            เมื่อวานตอนเช้าข้าพเจ้าได้รับข้อความผ่านไลน์ เป็นข้อความที่อ่านแล้วรู้สึกดี หนุนใจ ให้ข้อคิด ให้กำลัง ก่อนที่จะเริ่มทำงาน และขณะทำงานก็มีหลายสิ่งหลายอย่างเข้ามาในจิตใจ ทำให้ต้องเปิดอ่านข้อความและคิดหันกลับมามองที่ตัวเองทุกครั้ง ซึ่งที่ว่า พระวจนะของพระเจ้านั้น เป็นโคมส่องเท้าสำหรับเรา เป็นกระจกเงาสะท้อนให้เรามองที่ตัวเอง มากกว่าการโทษผู้อื่น

จึงขอนำข้อความดีๆ มาแบ่งปันกับทุกท่าน

L O V E (heart)
(*)
ความรักของพระเจ้า ทำให้เรารู้จักถ่อมใจลง ด้วยไม่คิดสำคัญตน ว่าดีไปกว่าใคร.
 (.)
ความรักของพระเจ้า ทำให้เรามีความเชื่อ และความหวังใจไม่สิ้นสุด.
 (*)
ความรักของพระเจ้า ทำให้เราร้องไห้ น้ำตาไหล ให้กับผู้ที่ทุกข์ตรมขมขื่นใจ.
 (*)
ความรักของพระเจ้า ทำให้เราเข้าใจผู้อื่น มากกว่าคิดเห็นแก่ตัว.
 (*)
ความรักของพระเจ้า ทำให้เรารู้จักอภัย และให้โอกาสกับผู้ที่หลงผิด.
 (*)
ความรักของพระเจ้า ทำให้เรารู้จักละอาย และเกลียดชังความชั่ว
 (*)
ความรักของพระเจ้า ทำให้เราสำนึกกลับใจ และหันจากชีวิตเก่าที่บาปผิดนั้นเสียสิ้น.
 (*)
ความรักของพระเจ้า ทำให้เรารู้จักยินยอมพร้อมมอบให้กับผู้ที่โหยหาและขาดแคลน
 (*)
ความรักของพระเจ้า ทำให้เรามีความชื่นชมยินดีต่อความสุขของผู้อื่น.
 (*)
ความรักของพระเจ้า ทำให้เรารู้จักแสวงหาความถูกต้องชอบธรรม.
 (*)
ความรักของพระเจ้า ทำให้เรารู้ว่า ไม่มีสิ่งใดจะยิ่งใหญ่เท่าความรักนี้อีกแล้ว
เพราะ.....  พระเจ้าทรงเป็นความรัก"
1 ยอห์น 4 : 8 ผู้ที่ไม่รักก็ไม่รู้จักพระเจ้า เพราะว่าพระเจ้าทรงเป็นความรัก
เพราะ . . .ความรัก ( แบบพระเจ้า ) ยิ่งใหญ่ที่สุด"
1 โครินธ์ 13 : 13 ดังนั้นยังตั้งอยู่สามสิ่ง คือความเชื่อ ความหวังใจ และความรัก แต่ความรักใหญ่ที่สุด
(*)
(#)ความรักยิ่งใหญ่ที่สุด
Greatest Love (heart)

แล้วพระเจ้าทรงเป็นความรัก God is Love นั้นคือ ?
เราสามารถรู้จักรักที่แท้จริงได้จากพระเจ้า พระผู้สร้างของเรา ความรักที่มาจากพระเจ้า ไม่ใช่เป็นอารมณ์รัก หรือการเห็นแก่ตัว ปกติ ความรักแบบมนุษย์ คือความรักที่ต้องการครอบครอง ความรักที่มีเงื่อนไข ต้องรักคนที่เขารักเรา รักจากประโยชน์ที่ได้รับ รักแบบโน้น รักแบบนี้ ความรักของพระเจ้าเป็นความรักที่แตกต่างกับความรักของมนุษย์ นั่นก็คือ
การให้ - พระเจ้าประทานพระบุตรคือพระเยซูคริสต์แก่เรา เพื่อช่วยเราให้พ้นจากบาปและให้เราเป็นอิสระจากความทุกข์ และช่วยให้เราให้พ้นจากนรก แต่ไม่ใช่เพียงแค่นั้น เพราะทุกๆวันพระเจ้าให้ชีวิตแก่เรา ให้ลมหายใจ และสิ่งที่ดีๆทุกอย่าง พระเจ้าให้ของขวัญที่ดีแก่เราเพราะว่าพระเจ้าทรงรักเรา
การเสียสละ - พระเจ้าสำแดงให้เห็นถึงความรักที่พระองค์มีต่อเราผ่านการตายของพระเยซูบนไม้กางเขน พวกเราเคยเป็นศัตรูของพระเจ้าเพราะว่าพวกเราไม่ได้เลือกที่จะเชื่อพระเจ้าว่าพระเจ้าเป็นผู้สร้างโลกและเราเลือกที่จะเคารพวิญญาณรูปเคารพอื่นๆ พระเจ้าพระผู้สร้างจึงต้องยอมตายชดใช้เพื่อให้มนุษย์รอดพ้นจากความผิดบาป เพื่อให้เราสามารถที่จะมีความสัมพันธ์กับพระเจ้าแต่เพียงผู้เดียว พระองค์ไม่ได้แค่เสียสละ แต่พระเจ้าทรงทำทุกอย่างเพื่อเรา เพราะว่าพระองค์ทรงรักเรา
การรักโดยไม่มีเงื่อนไข - พระเจ้าทรงเป็นความรักที่ไม่ใช่ความรักที่ขึ้นอยู่กับสิ่งใด หรือไม่ได้ว่ารักเพราะเราทำความดีต่อพระองค์ แต่พระเจ้ารักเราด้วยความจริงใจ เราไม่ต้องถวายสิ่งใดๆต่อพระเจ้าเพื่อที่จะทำให้พระเจ้ามารักเรา เพราะพระเจ้าไม่ได้รักเราเพราะว่าเราเป็นคนน่ารักแต่พระองค์รักเราจากใจที่บริสุทธิ์
การเปลี่ยนแปลงในเรา - ถ้าเรายอมรับความรักของพระเจ้า ชีวิตเราจะได้รับการเปลี่ยนแปลง พระเจ้ารักในสิ่งที่เราเป็น และพระเจ้ารักเรามากเกินกว่าจะเห็นเราใช้ชีวิตอยู่ในความบาป พระเจ้าต้องการให้เรามีการเปลี่ยนแปลงจากข้างใน เมื่อเรามีประสบการณ์ในความรักของพระเจ้าจิตใจทีชอกช้ำของเราจะได้รับการเยียวยา เราจะเห็นได้ว่าเราไม่ใช่คนๆ เดิมอีกเมื่อความรักของพระองค์เข้ามาเปลี่ยนแปลงจิตใจของเรา
(ส่วนหนึ่งนำมาจาก FB GOD is love / 10 เมษายน 2013)
            การที่เราจะมีประสบการณ์ในความรักของพระเจ้าได้นั้น เราต้องเปิดใจที่จะต้อนรับพระเยซูคริสต์เข้ามาในจิตใจของเรา และเรียนรู้จากพระองค์ ให้พระองค์ค่อยๆ เปลี่ยนจิตใจของเรา ดังที่พระเจ้าได้ตรัสในพระธรรม เอเสเคียล 36:26  เราจะให้ใจใหม่แก่เจ้าและเราจะบรรจุ จิตวิญญาณใหม่ไว้ในเจ้า เราจะนำใจหินออกไปเสียจากเนื้อของเจ้า และให้ใจเนื้อแก่เจ้า

1 โครินธ์ 13:4-7
4ความรักนั้นก็อดทนนานและกระทำคุณให้ ความรักไม่อิจฉา ไม่อวดตัว ไม่หยิ่งผยอง 5ไม่หยาบคาย ไม่คิดเห็นแก่ตนเองฝ่ายเดียว ไม่ฉุนเฉียว ไม่ช่างจดจำความผิด 6ไม่ชื่นชมยินดีเมื่อมีการประพฤติผิด แต่ชื่นชมยินดีเมื่อประพฤติชอบ 7ความรักทนได้ทุกอย่างแม้ความผิดของคนอื่น และเชื่อในส่วนดีของเขาอยู่เสมอ และมีความหวังอยู่เสมอ และทนต่อทุกอย่าง

ใน 1 โครินธ์ 13:4-7 เราจะเห็นส่วนประกอบของความรัก 9 ประการคือ
อดทนนานมีความอดทน ไม่รีบร้อน รอคอยได้ ทนต่อทุกสิ่งและเชื่อในส่วนดีของเขาเสมอ และมีความหวังเสมอ เพราะความรักทำให้เข้าใจทุกอย่าง
กระทำคุณให้ความเมตตากรุณา คือการแสดงออกซึ่งความรักความเมตตาต่อกันและกัน เราผ่านเข้ามาบนโลกเพียงแค่ครั้งเดียว ต้องไม่ผัดวันประกันพรุ่งที่จะทำดีต่อคนทั้งปวง เพราะเราอาจไม่มีโอกาสมีวันพรุ่งนี้ก็ได้
ความรักไม่อิจฉามีความเอื้อยเฟื้อ เค้าบอกว่าความอิจฉาเป็นวิญญาณของความโลภ การอิจฉาผู้อื่นทำให้เราเกิดความโลภ อยากมีอยากได้ของผู้อื่น อยากเหนือผู้อื่น ทำให้เกิดการทำร้ายกัน
ไม่อวดตัว ไม่หยิ่งผยองคือมีความถ่อมใจ ไม่อวดอ้างสิ่งที่ทำไป ความรักไม่กระทำเพื่อความพอใจของตนเองเท่านั้น
ไม่หยาบคาย มีความสุภาพ เป็นส่วนหนึ่งของความรักที่แสดงออกมาโดยการกระทำ เมื่อมีความรักก็จะมีความสุภาพต่อกัน
ไม่คิดเห็นแก่ตนเองฝ่ายเดียว การเห็นแก่ผู้อื่น ไม่นึกถึงแต่ผลประโยชน์ของตนเองก่อน
ไม่ฉุนเฉียว การมีอารมณ์ดี ความฉุนเฉียวนำมาซึ่งความแต่ร้าวในสังคม สูญเสียความสัมพันธ์กับผู้อื่น หากเราเปลี่ยนจิตใจ ไม่ปล่อยให้อารมณ์ชั่ววูบมาครอบงำ รู้จักรัก อารมณ์ฉุนเฉียวก็จะไม่เกิดขึ้น
ไม่ช่างจดจำความผิด ให้อภัยซึ่งกันและกัน
ไม่ชื่นชมยินดีเมื่อมีการประพฤติผิด แต่ชื่นชมยินดีเมื่อประพฤติชอบมีความจริงใจ สิ่งผิดก็ต้องเตือนกันได้เพื่อไม่ให้หลงผิด ไม่พูดเอาใจกันทั้งที่ผิด เมื่อผู้อื่นมีความชื่นชมยินดี เราก็มีความชื่นชมยินดีด้วย
ส่วนประกอบของความรัก 9 ประการนี้เป็นของประทานที่พระเจ้ามอบให้กับเราฟรีๆ เพียงแต่เราจะรับไว้หรือไม่
และใน 1 โครินธ์ 13:7 ความรักทนได้ทุกอย่างแม้ความผิดของคนอื่น และเชื่อในส่วนดีของเขาอยู่เสมอ และมีความหวังอยู่เสมอ และทนต่อทุกอย่าง

(ขอขอบคุณทุกข้อคิด ทุกบทเรียน ทุกบทความดีๆ ที่ได้นำมารวบรวมแบ่งปัน)