วันเสาร์ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

หินสะดุด



สะดุด ตามความหมายของพจนานุกรมหมายถึง
หยุดทันทีโดยพบกับสิ่งกีดขวาง, เดินเอาปลายเท้าเตะสิ่งของ, กระทบ. 
อาการที่เดินหรือวิ่ง ปลายเท้าไปกระทบสิ่งที่ขวางหน้า ทําให้ก้าวผิดจังหวะ เซ ถลา หรือหกล้ม เป็นต้น เช่น เขาสะดุดก้อนหินล้มลง เด็กวิ่งไปสะดุดตอไม้.

มัทธิว 18:1-6 (Matthew 18:6-9)
"1 ในเวลานั้นสาวกทั้งหลายมาเฝ้าพระเยซูทูลว่า 'ใครเป็นใหญ่ที่สุดในแผ่นดินสวรรค์?'
2 พระเยซูจึงทรงเรียกเด็กเล็กๆคนหนึ่งมา และให้มายืนท่ามกลางเขาทั้งหลาย 
3 แล้วตรัสว่า 'เราบอกความจริงกับท่านทั้งหลายว่า ถ้าพวกท่านไม่กลับใจและเป็นเหมือนเด็กเล็กๆ ก็จะเข้าในแผ่นดินสวรรค์ไม่ได้เลย 
4 เพราะฉะนั้น ถ้าใครถ่อมจิตใจลงเหมือนเด็กเล็กๆคนนี้ คนนั้นจะเป็นใหญ่ที่สุดในแผ่นดินสวรรค์ 
5 และถ้าใครจะยอมรับเด็กเล็กๆอย่างนี้สักคนหนึ่งในนามของเรา คนนั้นก็ยอมรับเราด้วย 
6 แต่ถ้าใครทำให้ผู้เล็กน้อยเหล่านี้คนหนึ่งที่วางใจในเราหลงผิดไป เอาหินโม่ก้อนใหญ่ผูกคอคนนั้นแล้วถ่วงเขาเสียที่ทะเลลึกก็จะดีกว่า 

ขณะนั้นเหล่าสาวกกำลังโต้แย้งกัน นึกถึงแต่การจัดการอาณาจักรของพระเยซูในโลกนี้ จนพลาดเป้าหมายของพระเจ้า แทนที่จะเสาะหาช่องทางเพื่อรับใช้ กลับแสวงหาแต่ตำแหน่งที่ได้เปรียบคนอื่น คิดเรื่องการแข่งขันกันเพื่อเลื่อนตำแหน่งในคริสตจักร
            พระเยซูใช้เด็กคนหนึ่งเพื่อให้เหล่าสาวกที่ถือตนเป็นใหญ่นั้นจับประเด็นสำคัญได้ถูกต้อง เราไม่ต้องทำตัวเป็นเด็ก แต่ต้องมีจิตใจเหมือนเด็ก คือจริงใจและถ่อมสุภาพ ลองให้เราคิดดูว่าเรากำลังทำตัวเป็นเด็ก หรือมีจิตใจเหมือนเด็ก ** เมื่อเราโตขึ้น เราก็ควรเป็นผู้ใหญ่ ไม่ใช่ทำตัวเป็นเด็กๆ อยู่อย่างนั้น
            พระเยซูเตือนเหล่าสาวกให้ระวังที่จะเป็นเหตุให้ เด็กเล็กๆ ทำบาป คือหลอกล่อพวกเขา และดูหมิ่นหรือละเลย ในฐานะผู้นำ (บอกสาวก) เราต้องช่วยผู้เยาว์และผู้เชื่อใหม่ หลีกเลี่ยงสิ่งของหรือบุคคลที่อาจเป็นเหตุให้ความเชื่อของพวกเขาสะดุดล้มและชักนำพวกเขาให้ทำบาป เราจะต้องจริงจังกับการอบรมสั่งสอนและการปกป้องคุมครองจิตวิญญาณของเด็กๆ และผู้เยาว์ในความเชื่อ อย่าถือว่าเรื่องเหล่านี้ไม่สำคัญ

ในฐานะที่เราเป็นคริสเตียน
หินสะดุด จึงเป็นการชักชวนให้ผู้เชื่อติดกับดัก หรือการส่งอิทธิพลต่อผู้เชื่อให้เดินไปสู่ความบาป อาจทำให้ผู้เชื่อเริ่มห่างเหินพระเจ้า จนหันไปฝังแน่นกับบาป
ผู้เชื่อใหม่ เปรียบเหมือนเด็ก ที่ต้องการการเลี้ยงดู การสนใจ การสอนที่ถูกต้อง การได้เห็นตัวอย่างที่ดี เหมือนในครอบครัว พ่อแม่ ก็จะเป็นตัวอย่างให้ลูกของตนเอง
สิ่งใดก็ตามที่พาเราออกไปจากการผูกพันตัวและดำเนินชีวิตอย่างสัตย์ซื่อกับพระเจ้า  เหล่านั้นถือเป็นหินสะดุดทั้งสิ้น
ถ้าเรารักพระเจ้า  เราก็ต้องรักคนที่พระเจ้ารัก และไม่วางหินสะดุดให้แก่คนที่พระเจ้ารัก
หินสะดุดนี้อาจเกิดขึ้นทั้งโดยตั้งใจ หรือโดยไม่ตั้งใจก็ได้

การทดลองให้กระทำบาป
มัทธิว 18 : 7-9
ข้อ 7 วิบัติแก่โลกนี้ด้วยเหตุให้หลงผิด ถึงจำเป็นต้องมีเหตุให้หลงผิด แต่วิบัติแก่ผู้ที่ก่อเหตุให้หลงผิดนั้น
ข้อ 8 ถ้ามือหรือเท้าของท่านทำให้ท่านหลงผิด จงตัดทิ้งเสีย ซึ่งจะเข้าในชีวิตนิรันดร์ด้วยมือและเท้าด้วน หรือพิการยังดีกว่ามีสองมือสองเท้า และต้องถูกทิ้งในไฟซึ่งไหม้อยู่เป็นนิตย์
ข้อ 9 ถ้าตาของท่านทำให้ท่านหลงผิด จงควักออกทิ้งเสีย ซึ่งจะเข้าในชีวิตด้วยตาข้างเดียว ยังดีกว่ามีสองตาและต้องถูกทิ้งไปในไฟนรก
            เราต้องเอาหินสะดุดต่างๆ ซึ่งเป็นเหตุให้เราทำบาปออกไป ไม่ได้หมายความว่าเราต้องตัดอวัยวะส่วนใดทิ้ง แต่หมายความว่าต้องตัดบุคคล รายการ หรือคำสอนเทียมเท็จที่คุกคามการเจริญเติบโตฝ่ายวิญญาณออกไปเสีย สำหรับเราแล้ว ความสัมพันธ์ ความประพฤติหรือการกระทำใดๆ ที่นำไปสู่ความบาปต้องหยุดเสีย
พระเยซูตรัสว่ามือข้างเดียวไปสวรรค์ก็ดีกว่ามือครบสองข้างแต่ไปนรก แต่บาปไม่เพียงส่งผลไปถึงมือเท่านั้น แต่ยังส่งผลถึงความคิดจิตใจด้วย

ใคร คือ ตัวอย่างหนึ่งของการทำให้ผู้อื่นสะดุด ?
เอวา คือ ตัวอย่างหนึ่งของการทำให้ผู้อื่นสะดุด
ปฐมกาล 3:6  เมื่อหญิงนั้นเห็นว่า ต้นไม้นั้น​​น่ากิน และน่าดูด้วย ทั้งเป็นต้นไม้ที่มุ่งหมายจะให้เกิดปัญญา จึงเก็บผลไม้นั้นมากิน แล้วส่งให้สามี​​กินด้วย เขาก็กิน
เธอยื่นผลไม้ที่พระเจ้าห้ามให้กับสามี ซึ่งอาจเนื่องด้วยความหวังดี แต่นั่นกลับเป็นผลร้าย
เราจึงไม่อาจวัดแค่ความจริงใจได้  แต่ต้องพิจารณาด้วยว่า ความประพฤติด้วยความจริงใจหรือความห่วงใยนั้นถูกต้องหรือไม่

ข้อคิด :
1.      อย่าทำให้ใครสะดุดโดยเกิดจากตัวเรา
2.      อย่ามองที่ตัวคน จนทำให้ตัวเราเองนั้นสะดุด